ข่าววันนี้ 14 ธ.ค.65 ที่ ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้เบิกตัว "เสี่ยโป้ อานนท์" หรือ อภิรักษ์ ชัชอานนท์ และ นางสาวจุฑามาศ จันที แฟนสาวเสี่ยโป้ กับพวก รวม 19 คน จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร มายังศาลอาญาโดยรถควบคุมผู้ต้องขัง เพื่อมาฟังคำพิพากษาในคดีชักชวนเล่นพนันออนไลน์ หมายเลขดำ อ.981/2564
ที่ พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ4 เป็นโจทก์ฟ้อง นายเสี่ยโป้ โป้อานนท์ อดีตผู้กว้างขวางย่านฝั่งธนบุรี นางสาวจุฑามาศ จันที แฟนสาว กับพวก เป็นจำเลยที่ 1-21 ฐานกระทำผิด พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ. 2478 , พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2504 พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินพ. ศ.2542 และ ฯลฯ ที่ห้องพิจารณา 901 ในเวลา 09.00 น.
โดยอัยการโจทก์ระบุฟ้องความผิดสรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 10 ส.ค.61- 20 ธ.ค.63 จำเลยทั้ง 21 คนกับพวกที่หลบหนี อาทิ น.ส.บานเย็น ชาญนรา มารดาของ นายเสี่ยโป้ บังอาจร่วมกันกระทำผิดต่อกฎหมายหลายบทหลายกรรมต่างกัน โดยจัดและโฆษณาชักชวน จูงใจ หรือไลฟ์สด ในฐานะเจ้ามือรับกินรับใช้ โดยจัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ โปรแกรม แอพลิเคชั่น ต่างๆ ทุกประเภทการพนัน
ลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มบริหารสั่งการ โดยมีนายเสี่ยโป้ จำเลยที่ 1 น.ส.จุฑามาศ จำเลยที่ 2 แฟนสาว นายพุทธรักษ์ ชัชอานนท์ ญาตินายเสี่ยโป้ จำเลยที่ 3 น.ส.พลอยพิชชา ปะดุลัง จำเลย ที่ 4 และน.ส.บานเย็น มารดา ที่หลบหนี ส่วนกลุ่มที่ 2 เป็นกลุ่มครอบครองและใช้บัญชีเงินฝาก และกลุ่มที่ 3 เป็นเจ้าของบัญชีธนาคารพาณิชย์ต่าง ๆ ที่ใช้ในการจัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์
พบว่า มีการรับโอน-รับแทงจำนวน 575,323 ครั้ง รวมเป็นเงิน 1,760,970,545 บาท รวมทั้งการโอนเงิน อันเป็นการฟอกเงิน รวม 2,713 รายการ รวมยอดเงิน 841,678,523 บาท โจทก์จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษพวกจำเลยตามความผิดด้วยคดีนี้จำเลยให้การปฏิเสธ
คดีนี้ เสี่ยโป้ กับพวก รวม 19 คน ไม่ได้รับการประกันตัว ถูกนำตัวไปควบคุมไว้ที่เรือนจำ ส่วนนายพุทธรักษ์ จำเลยที่ 3 และน.ส.พลอยพิชชา จำเลยที่ 4 ได้รับการประกันตัว แต่หลบหนีระหว่างพิจารณา ศาลจึงได้สั่งออกหมายจับ
สำหรับ เสี่ยโป้ และน.ส.จุฑามาศ ภรรยา ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา ศาลอาญามีคำพิพากษาจำคุกบุคคลทั้งสอง คนละ 5 ปี ในความผิดฐาน "ชักชวนเล่นการพนันออนไลน์" ตาม พ.ร.บ.การพนันฯ และร่วมกัน "ฟอกเงิน" อีกคดีหนึ่งด้วย ล่าสุด ศาลได้พิพากษา จำคุก "เสี่ยโป้" อานนท์ 50 ปี 48 เดือน
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่ Tnews