เปิดภาพใจกลาง "พายุยางิ" ท้องฟ้าสีแปลกไปจากเดิม เตือนอย่าเพิ่งชะล่าใจ

คืบหน้า "พายุยางิ" ยังต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง โดยทางด้านเเฟซบุ๊กเพจ World Forum ข่าวสารต่างประเทศ โพสต์ภาพใจกลางของพายุที่ซัดเข้าถล่มประเทศเวียดนาม ซึ่งจะเห็นว่าท้องฟ้าเป็นสีแปลกไปจากเดิม

"ภาพไวรัล เหตุการณ์แปลกประหลาด ท้องฟ้าเวลา 21:30 น. ของวันที่  7 ก.ย. 2567 นี่เป็นภาพใจกลางของ พายุยางิ โดยท้องฟ้าสว่างไสว เหมือนช่วงเวลา 5 - 6 โมงเย็น ชาวเน็ตบอกว่า อย่าเพิ่งชะล่าใจ อย่าออกไปข้างนอก

อัพเดต  หลังจากฝนหยุดตก ท้องฟ้าสงบ ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง  ท้องฟ้าสว่างขึ้น มีหลายสี  เงียบจนน่ากลัว ขณะที่นเวลา 23:00 น. (ของวันที่  7 ก.ย. 2567) มีไวรัลข่าวใหม่บอกว่าลมเริ่มแรงขึ้นอีกครั้ง"

ทางด้าน กรมอุตุนิยมวิทยา อัพเดตล่าสุด พายุยางิ พิกัดพายุไต้ฝุ่นยางิ ฉบับที่ 19 ระบุว่า เมื่อเวลา 04:00 น. ของวันนี้ (8 ก.ย. 67) พายุโซนร้อนกำลังแรง "ยางิ" (YAGI) บริเวณด้านตะวันตกของเมืองฮานอยประเทศเวียดนาม หรือที่ละติจูด 20.7 องศาเหนือ ลองจิจูด 105.3 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

พายุยางิ นี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนไปทางใต้เล็กน้อย ด้วยความเร็ว 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันและหย่อมความกดอากาศกำลังแรงตามลำดับ ลักษณะเช่นนี้ยังคงทำให้ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนและภาคใต้ฝั่งตะวันตก

ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

ส่วนอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 8 ก.ย. 67 นี้ไว้ด้วย

จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง