กลายเป็นประเด็นที่สังคมจับตาอย่างหนัก กรณีสาวสอบติดครูอันดับ1 แต่กลับชื่อหาย จนต้องออกมาร้องขอความเป็นธรรม ซึ่งทาง สพม.สระแก้ว ได้ออกหนังสือชี้แจงการสอบตำแหน่ง ครูผู้สอน ในเบื้องต้นว่า สพม.สระแก้ว ยอมรับในความผิดพลาด และยินดีร่วมมือในการแก้ไขข้อบกพร่อง บุคลากรที่ดำเนินการสอบยังขาดประสบการณ์ด้านการดำเนินการสอบ เนื่องจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระแก้วเป็นเขตพื้นที่การศึกษาตั้งใหม่ ขาดแคลนบุคลากรในการปฏิบัติงานและบุคคลกรส่วนใหญ่เป็นผู้บรรจุใหม่ จึงขาดประสบการณ์ในเรื่องดังกล่าว
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ล่าสุด นายพิเชฐ พิมพา ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสระแก้ว พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในสื่อออนไลน์ ว่า มีการสรรหาและเลือกสรรพนักงานราชการทั่วไป ตำแหน่ง ครูผู้สอน สาขาวิชาเอกวิทยาศาสตร์ทั่วไป ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระแก้ว ว่ามีความไม่โปร่งใส
โดยมีนายประยงค์ สารภูมิ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระแก้ว และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมให้ข้อมูล ณ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระแก้ว อำเภอเมืองสระแก้ว จังหวัดสระแก้ว
เบื้องต้น สาวสอบครูติดอันดับ1 ทางเจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงปรากฏตามคำแถลงการณ์ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระแก้ว และอยู่ระหว่างการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ทั้งนี้ สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสระแก้ว ได้ดำเนินการขอเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องเเล้วเพื่อดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจต่อไป
ด้าน นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะโฆษกกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยถึงกรณีข้อสงสัยเกี่ยวกับการสอบบรรจุพนักงานราชการตำแหน่งครู ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) จังหวัดสระแก้ว โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อผู้เข้าสอบรายหนึ่งซึ่งมีรายชื่อลำดับที่ 1 ในการประกาศผลสอบครั้งแรก (9 กันยายน 2567) แต่กลับไม่ปรากฏในรายชื่อในบัญชีเมื่อมีการประกาศผลสอบฉบับใหม่ (12 กันยายน 2567) ทำให้ไม่ได้รับการบรรจุเป็นครูตามลำดับเดิมก่อนหน้านี้
โดย พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ให้ความสำคัญต่อกรณีนี้เป็นอย่างมาก โดยได้กำชับให้มีการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวอย่างตรงไปตรงมา ไม่ปกป้องใคร และยึดหลักความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างเคร่งครัด พร้อมเน้นย้ำถึงความตั้งใจในการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง
ขณะนี้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงขึ้น เพื่อพิจารณาและตรวจสอบทุกประเด็นที่เกี่ยวข้อง โดย ศธ. ยืนยันว่าจะทำงานอย่างโปร่งใส หากพบว่ามีการกระทำที่ผิดพลาดหรือมีการทุจริตเกิดขึ้นจริง ผู้ที่เกี่ยวข้องจะต้องถูกดำเนินการลงโทษตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด ทั้งนี้ ศธ. ได้กำชับให้คณะกรรมการสอบสวนฯ ทำงานอย่างรอบคอบและตรวจสอบทุกขั้นตอนอย่างละเอียดเพื่อไม่ให้มีการละเลยรายละเอียดใด ๆ
นอกจากนี้ รมว.ศธ. ได้ให้ความสำคัญในการดูแลผู้เสียหาย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณามาตรการเยียวยาและหาทางออกที่เหมาะสม เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้อย่างเร่งด่วนที่สุด พร้อมยืนยันว่าจะไม่ทอดทิ้งผู้เสียหาย และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างแท้จริง