กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เดินหน้าส่งเสริมผู้ประกอบการร่วมกับแพลตฟอร์ม Amazonลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ด้านการส่งเสริมการค้าออนไลน์ข้ามพรมแดน ยกระดับความร่วมมือให้เป็นรูปธรรม ตั้งเป้าดันแบรนด์ไทยเพิ่มไม่น้อยกว่า 100 รายการ รวมทั้งขยายโอกาสการส่งออกสินค้าผ่านร้าน TOPTHAI บน Amazon ไปยังประเทศอังกฤษและประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคยุโรป ในปี 2568
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า การส่งเสริมผู้ประกอบการให้สามารถขยายสินค้าแบรนด์ไทยไปต่างประเทศผ่านช่องทางการค้าออนไลน์ระหว่างประเทศ (Cross Border E-Commerce) นั้น ถือเป็นอีกภารกิจสำคัญของกรมฯ โดยปัจจุบัน กรมฯ ได้มีความร่วมมือกับพันธมิตรด้านอีคอมเมิร์ซชั้นนำทั่วโลกไม่ว่าจะเป็น Tmall/ Bigbasket /Klangthai/ PcHome /Shopee/Lazada/ Rakuten และ Amazon
เพื่อผลักดันผู้ประกอบการโดยเฉพาะ SMEs ให้สามารถก้าวสู่ตลาดออนไลน์ต่างประเทศและสามารถแข่งขันได้ในยุคเศรษฐกิจดิจิทัลได้ ภายใต้โปรเจค “TOPTHAI” หรือ “ร้านค้าปลีกออนไลน์ของกรมฯ” ซึ่งเป็นมิติใหม่ที่ช่วยลดอุปสรรค และเพิ่มโอกาสให้การขายไปต่างประเทศของผู้ประกอบการไทยง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันเราดำเนินโครงการมาเข้าปีที่ 4 มีแบรนด์สินค้าไทยเข้าร่วมโครงการกว่า 2,500 แบรนด์ สร้างมูลค่ากว่า 600 ล้านบาท และยังมีผู้ประกอบการที่สนใจสมัครเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ กรมฯ มีแผนจะขยายความร่วมมือกับแพลตฟอร์มชั้นนำในตลาดใหม่และตลาดศักยภาพในภูมิภาคอื่น ๆ อย่างตลาดตะวันออกกลาง และยุโรปต่อไป
สำหรับ Amazon.com เป็นแพลตฟอร์มชั้นนำระดับโลกที่มีความร่วมมือกับกรมฯ มาอย่างต่อเนื่อง และเพื่อเป็นการยกระดับความร่วมมือระหว่างกันให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น กรมฯ ได้จัดให้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ด้านการส่งเสริมการค้าออนไลน์ข้ามพรมแดนระหว่างกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
และบริษัทอะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2567 ในงาน TOPTHAI Cross Border E-Commerce Day 2024 โดยกรมฯ และ Amazon Global Selling ซึ่งเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม Amazon.com จะร่วมกันส่งเสริมและผลักดันผู้ประกอบการไทยให้สามารถใช้แพลตฟอร์ม Amazon.com เป็นเครื่องมือในการขยายตลาดสินค้าไทยไปยังสหรัฐอเมริกาและประเทศในภูมิภาคยุโรปได้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งคาดว่าจะสามารถผลักดันผู้ประกอบการไทยให้เข้าสู่ตลาดการค้าออนไลน์ต่างประเทศผ่านแพลตฟอร์ม Amazon.com ภายใต้โครงการ TOPTHAI ได้เพิ่มขึ้นกว่า 100 ราย และสร้างยอดขายรวมกว่า 120 ล้านบาท ภายใน 3 ปี
ทั้งนี้ หลังจากได้มีการลงนาม MOU ไปแล้ว กรมฯ ได้นำสินค้าแบรนด์ไทยในโครงการ TOPTHAI × AMAZON มาประชาสัมพันธ์และจัดแสดงในบูธ TOPTHAI กว่า 50 รายการ จาก 4 แบรนด์ ได้แก่ ชิมมะ และ Well-B ในกลุ่มผลไม้อบแห้ง ,Tuff อุปกรณ์และเสื้อผ้ามวย และผลิตภัณฑ์ถั่วอบวาซาบิแบรนด์ Wasabi-O ที่งาน Ignite Thailand Festival : Think Thailand, Next Level ณ Time Square นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ควบคู่ไปกับการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายแบบ Offline to Online / การแจก Free sample ให้ผู้เข้าร่วมงาน/ กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
และจัดแคมเปญส่งเสริมการขายบน Amazon.com เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2567 ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ ในปี 2568 กรมฯ และบริษัท Amazon มีแผนร่วมกันจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมและผลักดันผู้ประกอบการและสินค้าไทยไปตลาดสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้าเพิ่มแบรนด์ไทยเข้าร่วมโครงการร้าน TOPTHAI ไม่น้อยกว่า 100 รายการ และขยายโอกาสให้ผู้ประกอบการสามารถส่งออกสินค้าผ่านร้าน TOPTHAI บน Amazon ไปยังประเทศอังกฤษ และประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคยุโรปต่อไป