ลูกค้าร้านทอง เดือด แจ้งความ "แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์" ลั่นเอาเรื่องถึงที่สุด

26 กันยายน 2567

"แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์" อ่วม ผู้เสียหายหอบหลักฐานแจ้งความเอาผิด ฉ้อโกงประชาชน ยืนยันดำเนินคดีให้ถึงที่สุด บางรายสุดอัดอั้นเก็บเรื่องนี้มานานเกือบสองปี

 จากดราม่า "ทองแม่ตั๊ก" ข่าวใหญ่สะเทือนการขายทองคำออนไลน์ ล่าสุดผู้บริโภคจำนวนมากออกมาเรียกร้องความเป็นธรรม หลังจากพบว่าทองคำที่ซื้อจาก "แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์" พบว่าคุณภาพของทองไม่เป็นไปตามที่ระบุไว้ในโฆษณา ล่าสุด 26 ก.ย.67 "เคนโด้" นาย เกรียงไกรมาศ พจนสุนทร พาตัวแทนผู้เสียหายเกือบ 20 คน จาก 155 คน มีผู้เสียหายทั้งในและต่างประเทศ  มูลค่าความเสียหายรวมแล้วเกือบ 2 ล้านบาท  

ลูกค้าร้านทอง เดือด แจ้งความ แม่ตั๊ก ป๋าเบียร์ ลั่นเอาเรื่องถึงที่สุด

พร้อมหอบหลักฐาน หอบของแถม เข้าแจ้งความที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อขอให้ดำเนินคดีกับแม่ตั๊ก และ นายกานต์พล เรืองอร่าม หรือ ป๋าเบียร์ ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน บางรายสุดอัดอั้นเก็บเรื่องนี้มานานเกือบสองปี  

 

ลูกค้าร้านทอง เดือด แจ้งความ แม่ตั๊ก ป๋าเบียร์ ลั่นเอาเรื่องถึงที่สุด

โดยตัวแทนผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้เคยไปแจ้งความไว้ที่สภ.บ่อวิน จังหวัดชลบุรี แต่ตำรวจไม่รับแจ้งความ โดยให้เหตุผลว่าไม่ได้เข้าข่ายความผิดฉ้อโกง เพราะผู้เสียหายได้รับสินค้าแต่ไม่ตรวจสอบน้ำหนักทองก่อนรับสินค้า 

  ลูกค้าร้านทอง เดือด แจ้งความ แม่ตั๊ก ป๋าเบียร์ ลั่นเอาเรื่องถึงที่สุด

ผู้เสียหายอีกคน  เปิดเผยว่า เก็บเรื่องนี้มานานเกือบสองปีไม่กล้าออกมาให้ข้อมูลเพราะกลัวถูกฟ้องฐานหมิ่นประมาท กระทั่งสังคมเริ่มให้ความสนใจ และมีผู้เสียหายเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับตัวเองเริ่มมีความรู้ทางด้านกฎหมาย ออกมาเปิดหน้าสู้ชน และต้องการให้แม่ตั๊กได้รับโทษตามกฎหมาย มาสองปีไม่กล้าออกมา

ด้าน "ทนายพัฒน์" นายอนุสรณ์ อะสุระพงษ์ ทนายความ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้เสียหายในกลุ่ม 155 คน รวมมูลค่าความเสียหาย 2 ล้านบาท  แต่ปัญหาที่เจอตอนนี้ผู้เสียหายส่วนใหญ่อยู่ต่างจังหวัดและต่างประเทศ ทำให้การรวมตัวผู้เสียหายเข้าแจ้งความเป็นไปได้ยาก ส่วนหลักฐานที่นำมาเข้าแจ้งความในวันนี้ มีหลักฐานการซื้อขาย  

  ลูกค้าร้านทอง เดือด แจ้งความ แม่ตั๊ก ป๋าเบียร์ ลั่นเอาเรื่องถึงที่สุด

ผู้ของแถมที่แม่ตั๊กมอบให้และคลิปไลฟ์สดขายทองทางออนไลน์ ส่วนข้อหาที่จะแจ้งความในวันนี้คือความผิดฐานฉ้อโกงและข้อหาฉ้อโกงประชาชน เนื่องจากเป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ส่วนผู้เสียหายบางคนที่มีการเซ็นยินยอมเมื่อดำเนินคดีเพื่อแลกกับการได้เงินคืนนั้น ก็ถือว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคลของผู้เสียหาย แต่ผู้เสียหายกลุ่มนี้ยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดและไม่มีการยอมความ