เรียกได้ว่าสร้างความฮือฮาอย่างมาก เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ เดชา นฤนารท ได้ออกมาโพสต์ความเตือนว่า อีก 5 วันจะกิดพายุไต้ฝุ่นขนาดใหญ่ ถล่มไต้หวันแบบชนิดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และรุนแรงมาก แรงกว่าพายุยางิถึงสองเท่า แต่ประเด็นมันอยู่ตรงที่ว่า อุณหภูมิที่ประเทศจีนมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา มวลอากาศเย็นสลับกับลมร้อน ไม่อยู่กับร่องกับรอย ถ้ามวลอากาศเย็นหายไป พายุลูกนี้จะเคลื่อนตัวเข้าเวียดนามและเข้าประเทศไทยทางฝั่งภาคเหนือตอนบนอย่างแน่นอน
ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมกังวลใจมากที่สุด ถ้าเป็นแบบนี้ กรุงเทพฯ น้ำจะท่วมหนักกว่าปี 54 ถึงสองเท่าเลยทีเดียว
สำคัญที่สุดก็คือ ในช่วง 5 วันนี้กระแสลมมรสุมนิ่งมาก นั่นหมายความว่า จะเกิดอะไรขึ้นกับพายุลูกนี้
1.ถ้าพายุเคลื่อนมาด้านหน้า เข้าเวียดนาม สปป.ลาว และไทย อย่างแน่นอน และจะสร้างความเสียหายที่รุนแรงมาก เพราะพายุลูกนี้ดูดยึดเอามวลอากาศทั้งหมดในทะเลจีนใต้ มาไว้กับมันจนหมด
2.ถ้าลอยขึ้นด้านบน ก็คือจีน และย้อนกลับมาถล่มนครเซี่ยงไฮ้ เป็นรอบที่ 3 ของปีนี้
3.ถ้าลอยออกด้านข้าง ก็จะเป็นเกาหลีใต้และญี่ปุ่น
แต่ที่ชัวร์ที่สุดก็คือ นับจากวันนี้เป็นต้นไป ทุกคนในทั่วโลกจะได้พบในสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ก็คือ จะเกิดปรากฏการณ์ฝนตกหนักในประเทศเนปาล ติดต่อกันสามวันสามคืน และคาดว่าน้ำจะท่วมหนักกันทั้งประเทศ
วันนี้ขอเตือนพี่น้อง ทางภาคเหนือทั้งหมด โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ลำปาง แพร่ น่าน นับจากวันนี้ไป จนถึงกลางเดือนหน้า เตรียมเก็บข้าวของขึ้นที่สูงกันได้เลย เป็นไปได้ให้รีบย้ายขึ้นไปอยู่ในที่ปลอดภัย ส่วนพวกที่อาศัยอยู่บนดอยเขาหัวโล้น บ้านเรือนที่อยู่อาศัยไม่น่าจะเหลือรอด เพราะจะเกิดมวลน้ำป่าอย่างหนักที่รุนแรงกว่าเดิมและฝนจะตกบนดอยสูงติดต่อกันไม่หยุด
อีกไม่กี่วันที่บริเวณ ท่าขี้เหล็ก ของเมียนมาร์จะจมน้ำเกือบทั้งหมด และจะส่งผลต่อ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ในจุดเดิมๆอีก ต้องเฝ้าระวังกันให้ดี
ดูจากสถานการณ์ การเปลี่ยนแปลงของร่องมรสุมและพายุฝนแบบนี้ ผมมองว่ากิดจากปัจจัย 2 อย่างคือ
1.เกิดจากการรั่วออกมาของก๊าซไฮโดรเจน จากเตาปฏิกรณ์ของการทดสอบดวงอาทิตย์เทียม ที่จีน ค่อนข้างมีเปอร์เซ็นสูงมาก ที่ทำให้เกิดสภาวะลมมรสุมรอบข้างทั้งหมด ถูกดูดหายไปรวมตัวกันเป็นเมฆที่กระจุกลอยอยู่ในเขตประเทศ เนปาล บังคลาเทศ อินเดียและตอนบนของเมียนมาร์ ที่ไม่ยอมลอยเคลื่อนที่หายไปไหนเลย
2.พายุที่จะก่อตัวขึ้นในไต้หวัน ในอีก 5 วันข้างหน้า(ตามภาพ) คือพายุที่เกิดขึ้นจริงตามธรรมชาติ ได้ดูดเอามวลลมทั้งหมดในเขตทะเลจีนใต้ได้แบบง่ายดาย จึงมีขนาดใหญ่และมีกำลังมาก เพราะไม่มีมวลลมอื่นมาคอยดึงเอาอากาศออกไป และแนวเขตร่องมรสุมทางทะเลอ่าวเบงกอลก็หายไปหมด เพราะถูกดูดไปเป็นพายุประหลาด ที่เข้าถล่มในเนปาลถึงสามวันสามคืน
ดังนั้นหากพายุลูกนี้เคลื่อนตัวไปในทิศทางไหน จะก่อหายนะที่รุนแรงมาก
แต่ถ้าดูจากร่องมรสุมแล้ว โอกาสที่พายุจะเคลื่อนที่เข้ามาทางเวียดนามก็มีโอกาสที่สูงมาก แต่หากประเทศไทยโชคดี ถ้าในอีก5วันนี้ เกิดมีมวลอากาศเย็นจากจีนแผ่ปกคลุมลงมามาก พายุลูกนี้ก็จะเคลื่อนตัวสูงขึ้นและอาจจะเข้าจีน หรือไม่ก็ที่เกาหลีใต้แทน
ถึงอย่างไรก็ตาม นับจากวันนี้เป็นต้นไปจนถึงกลางเดือนหน้า ภาคเหนือตอนบนทั้งหมด ก็ต้องเผชิญกับฝนตกหนักเหมือนเดิมนะครับ เตรียมตัวกันไว้ตอนนี้เลย.
เดชา นฤนารท .
26/9/67 07.56 น.
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวทางด้าน ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศทางทะเล ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat ระบุว่า
หลายท่านสอบถามมา ขออธิบายว่า พายุยังไม่ได้เกิดเลย เกิดแล้วแรงแค่ไหนก็ไม่รู้ ไปทิศทางไหนก็ยังบอกไม่ได้ รอให้หน่วยงานเป็นทางการวิเคราะห์และพยากรณ์มาก่อน ค่อยมาพูดคุยกันนะครับ ยุคโลกเดือดสภาพภูมิอากาศแปรปรวน ต้องใจเย็นและรับฟังข่าวสารให้ดีครับ
ทั้งนี้ ควรติดตามข่าวสารเกี่ยวกับสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา หรือหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง แม้ว่าจะไม่มีพายุใหญ่เกิดขึ้น แต่ก็ควรการเตรียมความพร้อมรับมือภัยธรรมชาติ เช่น การเตรียมเสบียงอาหาร น้ำดื่ม และอุปกรณ์ที่จำเป็น เป็นสิ่งที่ควรทำอยู่เสมอ