คืบหน้าประเด็นขาย "แม่ตั๊ก" และ "ป๋าเบียร์" จากการตรวจสอบพบว่า ตั๊ก กรกนก มีชื่อเป็นกรรมการบริษัท 3 แห่ง คือ บริษัท เลดี้ ไทยคลับ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2558 , บริษัท เลดี้ เคทูเอ็น จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2560 และบริษัท แม่ตั๊ก เลดี้ 888 จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2565 โดยบริษัทแรกเลิกกิจการไปแล้วส่วนอีก 2 บริษัทก็มีรายได้ที่ไม่ได้มากมายอะไรบางปีขาดทุนบางปีกำไรหลักหมื่น
แต่ที่น่าสนใจก็คือบริษัท เคทูเอ็น โกลด์ ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับร้านทอง ซึ่งจดทะเบียนในปี 2562 กับบริษัท เลดี้คลับ ที่เพิ่งจดทะเบียนในปี 2563 ซึ่งไม่ปรากฏชื่อของเธอแต่มีชื่อของสามีนั่งเป็นกรรมการร่วมกับคนนามสกุลเดียวกัน โดยบริษัทแรกนั้นที่ผ่านมาสามารถทำรายได้รวมกว่า 1,000 ล้านบาทใน 5 ปี แต่กลับมีกำไรสุทธิเพียง 13 ล้านบาทเท่านั้น
เช่นเดียวกับรายได้ของบริษัท เลดี้คลับ ซึ่งมีรายได้รวม 4 ปีที่สูงถึง 751 ล้านบาท ทั้งที่สินค้าทั้งหมดที่ขายนั้นมีไม่กี่ชนิด อีกทั้งแบรนด์ก็ไม่ได้เป็นที่รู้จักมากนักและไม่ได้มีการโปรโมทหรือวางขายในช่องทางทั่วไป
โดยทางด้าน ป๋าเบียร์ ชี้แจงว่า รายได้เกือบพันล้านไม่ได้มาจากธุรกิจขายครีมกันแดดอย่างเดียว แต่ยังมีอาหารเสริมและสินค้าตัวอื่นๆ และความสำเร็จส่วนหนึ่งมาจากชื่อเสียงและความไว้วางใจที่ลูกค้ามีต่อภรรยานั่นเอง
ส่วนทาง แม่ตั๊ก ระบุว่า เหตุที่ไม่มีชื่อตนในบริษัททั้งสองก็เพราะตนจดทะเบียนสมรส ทำให้สามีต้องเป็นคนจัดการกับเอกสารทุกอย่าง ส่วนตนเองก็จะทำในส่วนของการจัดการ การตลาดตรงนั้นไป
ทั้งนี้ ในอดีตแม่ตั๊กเคยลงคลิปเกี่ยวกับทรัพย์สินว่า เธอมีนาฬิกาหรู ราคาเรือนละ 19 ล้าน , 12 ล้าน , 10 ล้าน และ 2.6 ล้าน รวมแล้วขั้นต่ำ 40 ล้านบาท
นอกจากนี้ มีรถหรูทั้งหมด 9 คัน มูลค่ามากกว่า 100 ล้านบาท ยี่ห้อ ปอร์เช่ เล็กซัส มัสแตง แม็คคลาเรน เฟอร์รารี่ ฯลฯ รวมถึงกระเป๋าแบรนด์เนม Hermes ใบละ 10 ล้าน , หลุยส์ วิตตอง , กระเป๋าทองคำ แม้กระทั่งอสังหาริมทรัพย์ บริษัท ที่ดิน อีกมากมาย