ฉาวสีกากี เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2567 ตำรวจยศ ส.ต.อ. สภ.หนึ่งในจ.สมุทรปราการ อายุ 29 ปี เดินทางเข้าขอความเป็นธรรมกับเพจสายไหมต้องรอด กรณีถูก รอง ผกก. เรียกบังคับให้ถ้อยคำใส่ร้ายประชาชนมีส่วนเกี่ยวข้องยาเสพติด ยึดมือถือไปตรวจสอบ ขู่จะดำเนินคดีหากไม่เซ็นทั้งที่ไม่เกี่ยวข้อง จำต้องทำเพราะนายสั่ง เชื่อถูกกลั่นแกล้งเพราะไปจับคนสนิท รอง ผกก. หวั่นครอบครัวไม่ปลอดภัย เครียดถึงขั้นคิดสั้น
โดย ส.ต.อ. นายนี้ระบุว่า วันที่ 24 กันยายน ตนเองถูก รอง ผกก. ท่านนี้ซึ่งอยู่สภ.เดียวกัน เรียกไปหาที่ ภูธรจังหวัดโดยระบุว่าไม่ต้องบอกใคร ด้วยตนเองไม่ทราบว่าเป็นเรื่องอะไรและไม่เคยทำผิดอะไรจึงเดินทางไปพบ ตอนแรกตนเองคิดว่าเรียกมาคุยเฉยๆ แต่กลายเป็นเรียกมาสอบให้ถ้อยคำเกี่ยวกับการให้ข้อมูล ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดจำนวน 5 คน แต่ที่หนักใจเพราะการสอบถ้อยคำตนเองไม่ทราบเขามีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติดจริงหรือไม่
ถ้าเซ็นไปหากเขาสู้ชนะคดีผลกระทบจะตีกลับมาหาตนโดยตรงทั้งๆตนเองไม่รู้เรื่อง ยอมรับว่ารู้จักกันแต่ไม่สนิท ตนเองเป็นคนในชุมชนหลังสอบติดตำรวจก็มาประจำอยู่ที่นี้นานกว่า 9 ปี รับผิดชอบงานมวลชนสัมพันธ์ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะรู้จักกัน แต่ตนเองก็ไม่เคยรู้ว่าเขาจะเกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรือไม่ แต่จู่ๆมาให้ตนเองเซ็นต์ให้ถ้อยคำ และยืดมือถือไปตรวจสอบ
ยอมรับว่าที่ต้องเซ็นต์ไปเพราะตนเองเป็นผู้น้อยไม่กล้าขัดคำสั่ง และถูกขู่ว่าจะถูกดำเนินคดีหากไม่ทำตาม เชื่อเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการกลั่นแกล้ง เพราะตนเองเคยไปจับผู้ต้องหาคดียาเสพติดซึ่งเป็นคนดูแลไก่ให้กับ รอง ผกก.ท่านนี้ แต่เขาไม่สามารถช่วยได้เนื่องจากตนเองรายงาน ผกก. ไปแล้วจึงอาจจะเป็นเหตุให้ไม่พอใจ
ตนเองเป็นตำรวจแต่จะให้เราไปใส่ร้ายหรือกล่าวหาประชาชนที่ตนเองยังไม่รู้เลยว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรือไม่ จุดนี้ที่ทำให้ตนคิดมากว่าจะไปรังแกคนอื่นมั้ย ทำให้ตนเองต้องออกมาพูดในวันนี้ ในเรื่องความปลอดภัยตนเองเป็นตำรวจไม่กลัวอะไรอยู่แล้ว ตนเองและครอบครัวเป็นคนในพื้นที่ ก็ไม่รู้ว่าจะมีใครมามุ่งร้ายหรือไม่
วันนี้อยากขอความเห็นใจตนเองเป็นตำรวจชั้นผู้น้อย อยากขอความเป็นธรรมซึ่งก็ไม่รู้หลังจากนี้ก็ไม่รู้จะถูกกลั่นแกล้งอะไรอีกมั้ย อยากให้เอาตนเองไปสอบบันทึกถ้อยคำใหม่ ตนเองไม่ได้ผิดแล้วทำไมต้องดึงเข้าไปเกี่ยวข้อง เคยคิดแม้กระทั่งจบชีวิตตัวเอง แต่ก็ยังห่วงครอบครัวที่ต้องดูแล ตนเองยอมรับว่าไม่ใช่ตำรวจที่ดี 100% แต่ก็ไม่เคยคิดที่จะผิดจรรยาบรรณใส่ร้ายคนที่ไม่ได้ทำผิดอย่างแน่นอน การที่ตนเองเกิดที่นี่แล้วมาเป็นตำรวจที่นี่จะต้องเกี่ยวข้องกับยาเสพติดไปด้วยตนเองคิดว่าไม่เป็นธรรม ตอนนี้ยอมรับเคลียดมากถูกกดดันทุกทางบอกใครๆก็ไม่เข้าใจ "เราผิดเองที่เกิดตรงนั้น หากเลือกได้ขอไปเกิดที่อิ่นแล้วมาเป็นตำรวจที่นี่ดีกว่าจะไม่ได้ไม่ต้องมาเป็นแบบนี้"
นายนิรันดร์ เกแง้ว ผู้ร่วมก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ระบุว่า วันนี้มีข้าราชการตำรวจชั้นผู้น้อยมาร้องขอความเป็นธรรมกับเพจสายไหมต้องรอดในเรื่องของการเกรงว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากผู้บังคับบัญชา ก็เข้าใจได้ว่าอาจจะเป็นความหนักใจ ของน้องจึงต้องมาร้องกับทางเพจ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องของความขัดแย้งในองค์กรเดียวกัน เบื้องต้นทางพี่เอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ รับเรื่องและประสานไปยัง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการให้เร่งตรวจสอบเรื่องนี้เพื่อให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่ายหากเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงก็ต้องมีการดำเนินการในเรื่องของวินัยซึ่งก็จะติดตามเพื่อหาข้อเท็จจริงในเรื่องนี้อีกครั้ง