คืบหน้าประเด็น "ร้านทองแม่ตั๊ก" ล่าสุดวันที่ 29 ก.ย. 67 ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเผยถึงคดีทองแม่ตั๊ก กรกนก ว่า จากการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้ง 2 หน่วยงาน
พบว่า แม่ตั๊กและพ่อเบียร์ 2 สามีภรรยาเข้าข่ายกันทำความผิด 2 ข้อหา คือ ข้อหาฉ้อโกงประชาชน ซึ่งอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ บก.ปคบ. และคดีตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของ สอท. หรือตำรวจไซเบอร์ ขณะนี้ตำรวจอยู่ในระหว่างการรวบรวมพยักฐาน
คาดว่าภายใน 2-3 วัน พนักงานสอบสวนหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งหรืออาจจะทั้ง 2 หน่วยงาน จะขออำนาจศาลออกหมายจับแม่ตั๊กและพ่อเบียร์
นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนทั้ง 2 หน่วยงานยังเตรียมดำเนินคดีกับกลุ่มดารา นักแสดงและ influencer ที่ร่วมไลฟ์สดขายทองหรือขายสินค้าในธุรกิจของแม่ตั๊กและพ่อเบียร์ฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน เนื่องจากการเข้าร่วมในไลฟ์สดดังกล่าวนั้น เป็นตัวสนับสนุนให้ประชาชนตัดสินใจซื้อสินค้า เพราะบุคคลเหล่านี้เป็นบุคคลสาธารณะที่มีชื่อเสียงและมีความน่าเชื่อถือสูง ซึ่งทนายเดชามองว่า
การที่อ้างว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือไม่รู้ข้อเท็จจริงว่าสินค้าที่ขายเป็นสินค้าผิดกฎหมายหรือไม่นั้น เป็นข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้นและเกรงว่าจะเป็นมาตรฐานที่ไม่ถูกต้อง
นอกจาก 2 คดีที่อยู่ในมือตำรวจแล้ว ยังมีประเด็นเรื่องภาษีสรรพากรและความน่าสงสัยว่าจะเข้าข่ายฟอกเงินหรือไม่ ซึ่งตอนนี้กรมสรรพากรและ ปปง. ได้ลงมาตรวจสอบเส้นทางการเงินอย่างละเอียดแล้ว
ทนายเดชา ยังเปิดเผยอีกว่า คนสนิทของแม่ตั๊กได้ติดต่อเข้ามาหาตนว่า แม่ตั๊กและพ่อเบียร์ต้องการ มอบตัวต่อสู้คดี คาดว่าจะเข้ามอบตัวเร็ว ๆ นี้ โดยในบางประเด็นที่ทำผิดจริง ก็พร้อมยอมรับสารภาพและชดใช้เยียวยา ขณะนี้ทั้งคู่ยังไม่ได้หลบหนีออกนอกประเทศตามที่มีกระแสข่าวก่อนหน้านี้ ยังคงอยู่แถวรามอินทรา
ส่วนกรณีทรัพย์สินโดยเฉพาะรถหรูที่หลายคนตั้งข้อสังเกตว่าหายไปจากบ้านนั้น ตนเชื่อว่า สาเหตุที่หายไป เนื่องจากบางคันเป็นรถไฟแนนซ์และอาจจะเป็นรถของคนอื่น ไม่ใช่รถทุกคนเป็นกรรมสิทธิ์ของทั้งคู่ตามที่เห็นในโซเชียล