ศาลไม่ให้ประกันตัว "คนขับรถบัสไฟไหม้" คดีเสียหายร้ายแรง หวั่นหลบหนี

02 ตุลาคม 2567

นายสมาน คนขับรถบัสไฟไหม้ นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว ไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว คดีมีความเสียหายร้ายแรง หวั่นจะหลบหนี

  ศาลไม่ให้ประกันตัว ไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว "นายสมาน"คนขับรถบัสไฟไหม้ หลังก่อนหน้านี้เข้ามอบตัวเข้าตำรวจ ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คูคต สอบปากคำพร้อมโดนแจ้ง 5 ข้อหาหนัก พร้อมพิจารณาอนุญาตรับฝากขัง ชี้คดีนี้มีความเสียหายร้ายแรง หวั่นจะหลบหนี

ศาลไม่ให้ประกันตัว คนขับรถบัสไฟไหม้ คดีเสียหายร้ายแรง หวั่นหลบหนี

 นายสมาน คนขับรถบัสไฟไหม้ ได้ถูกแจ้ง 5 ข้อหา  “ขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และขับรถในทางก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคล แล้วไม่หยุดรถให้การช่วยเหลือ ไม่แสดงตัวและไม่แจ้งเหตุต่อเจ้าพนักงาน เป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 และพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 43(4), 78, 157, 160 วรรคสอง ในเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ และพนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวไว้ ณ สภ.คูคต พร้อมนำตัวส่งศาลขอฝากขัง

  ศาลไม่ให้ประกันตัว คนขับรถบัสไฟไหม้ คดีเสียหายร้ายแรง หวั่นหลบหนี

ล่าสุด 2 ต.ค.67 ศาลจังหวัดธัญบุรี ไม่ให้ประกันตัว คนขับรถบัสทัศนศึกษา  เนื่องจากคดีนี้มีความเสียหายร้ายแรง ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นเด็กเล็ก ซึ่งช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หลังเกิดเหตุผู้ต้องหาไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ เพื่อช่วยเหลือโดยตลอด และไม่แสดงตัวต่อเจ้าพนักงานตำรวจ ประกอบกับผู้เสียหายและพนักงานสอบสวนคัดค้าน หากปล่อยชั่วคราวเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี

ศาลไม่ให้ประกันตัว คนขับรถบัสไฟไหม้ คดีเสียหายร้ายแรง หวั่นหลบหนี

ด้านทาง รถบัสคันเกิดเหตุ สพฐ.ตร.ได้ร่วมกับกรมการขนส่งทางบก ตรวจสภาพและรายละเอียดที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาสาเหตุที่เกิดไฟลุกไหม้ขึ้น ในเบื้องต้นพบว่ารถบัสคันดังกล่าวมีถังก๊าซ จำนวน 11 ถัง พบเบื้องต้นจดทะเบียนถูกต้องเพียง 6 ถัง ส่วนที่เหลือ 5 ถัง ไม่อยู่ในรายการจดแจ้งกับเจ้าหน้าที่  ในส่วนของความเร็วเบื้องต้นจากการตรวจสอบร่วมกับ พฐ. พบว่าความเร็วรถบัสทัศนศึกษา คันที่เกิดเหตุอยู่ที่ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ศาลไม่ให้ประกันตัว คนขับรถบัสไฟไหม้ คดีเสียหายร้ายแรง หวั่นหลบหนี

อย่างไรก็ตาม รายละเอียดอื่นๆ จะต้องตรวจสอบอย่างละเอียดทางนิติวิทยาศาสตร์ต่อไป หากพบว่ามีบุคคลหรือบริษัทใดเกี่ยวข้อง หรือมีส่วนในการกระทำความผิด สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด