รู้แล้ว "ฤดูหนาว" ปีนี้เริ่มเมื่อไหร่ คาดจะหนาวกว่าปีที่แล้ว

03 ตุลาคม 2567

"กรมอุตุนิยมวิทยา" คาดลักษณะอากาศช่วง "ฤดูหนาว" ของประเทศไทย เริ่มเมื่อไหร่ คาดปีนี้จะหนาวเย็นกว่าปีที่ผ่านมา

ช่วงนี้ในหลายพื้นที่ก็เริ่มรู้สึกได้ถึงอากาศที่เย็นลง เชื่อว่าหลายคนคงสงสัยกันแล้วว่า ฤดูหนาว ปีนี้เริ่มเมื่อไหร่ ล่าสุด กรมอุตุยนิบมวิทยา ได้ประกาศการคาดหมายลักษณะอากาศช่วงฤดูหนาวของประเทศไทย พ.ศ. 2567 โดยระบุว่า ฤดูหนาวของประเทศไทยปีนี้ คาดว่าจะเริ่มต้นประมาณปลายสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนตุลาคม 2567 ถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2568 บริเวณประเทศไทยตอนบน จะเริ่มประมาณปลายสัปดาห์ที่สามของเดือน ต.ค.2567 ซึ่งจะช้ากว่าค่าเฉลี่ยปกติเล็กน้อย และจะสิ้นสุดประมาณปลายเดือน ก.พ.2568

 

อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยบริเวณประเทศไทยตอนบนประมาณ 20 - 21 องศาเซลเซียส ซึ่งจะสูงกว่าค่าปกติประมาณ 1 องศาเซลเซียส (ค่าปกติ 19.9 องศาเซลเซียส) และจะมีอากาศหนาวเย็นมากกว่าปีที่ผ่านมา (อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยปีที่ผ่านมา 21.6 องศาเซลเซียส)


สำหรับอุณหภูมิต่ำที่สุดประมาณ 6-8 องศาเซลเซียส ส่วนมากจะอยู่ตอนบนของทั้งภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนอุณหภูมิต่ำที่สุดบริเวณกรุงเทพมหานคร 16 - 18 องศาเซลเซียส และปริมณฑล 14 - 16 องศาเซลเซียส ช่วงเวลาที่มีอากาศหนาวเย็นที่สุด ประมาณต้นเดือนธันวาคม 2567 ถึงเดือนมกราคม 2568


สำหรับยอดดอยและยอดภู รวมทั้งเทือกเขาจะมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นได้บ่อยครั้ง ส่วนภาคใต้ จะมีอากาศเย็นบางแห่งในบางช่วงส่วนมากตอนบนของภาค แต่ยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่นต่อไป


ส่วนภาคใต้ จะมีอากาศเย็นบางแห่งในบางช่วงส่วนมากตอนบนของภาค แต่ยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่นต่อไป โดยเฉพาะทางฝั่งตะวันออกในเดือน พ.ย.และ ธ.ค. กับมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และหนักมากในบางแห่ง ซึ่งจะทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากรวมทั้งน้ำล้นตลิ่งได้ในหลายพื้นที่ สำหรับคลื่นลมในทะเลอ่าวไทยจะมีกำลังแรงเป็นระยะ ๆ ในบางช่วงมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร


เดือนพฤศจิกายนและธันวาคม จะมีหย่อมความกดอากาศต่ำ และมีโอกาสสูงที่จะพัฒนาตัวเป็นพายุหมุนเขตร้อนแล้วเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้หรือเคลื่อนผ่านอ่าวไทยและภาคใต้ ซึ่งจะทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกชุกหนาแน่น รวมทั้งคลื่นลมจะมีกำลังแรง และอาจมีคลื่นพายุซัดฝั่ง ความสูงของคลื่นประมาณ 4 - 5 เมตร

ประเทศไทยตอนบน (ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางและภาคตะวันออก)


ประมาณปลายสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนตุลาคม - เดือนพฤศจิกายน ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีอากาศเย็นเกือบทั่วไปกับมีอากาศหนาวบางแห่งในบางวันทางตอนบนของภาค ส่วนภาคกลางและภาคตะวันออกจะมีอากาศเย็นบางแห่ง ทางตอนบนของภาค โดยจะมีฝนเล็กน้อยร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่ และอาจลมกระโชกแรงบางแห่งในบางวัน เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นระยะ ๆ โดยจะมีกำลังอ่อนถึงปานกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือจะพัดปกคลุมประเทศไทย


จากนั้นจนถึงเดือนมกราคม จะมีอากาศหนาวเย็นมากขึ้น โดยบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีอากาศหนาวเย็นเกือบทั่วไปและมีอากาศหนาวจัดบริเวณตอนบนของภาค สำหรับบริเวณยอดดอย ยอดภู รวมทั้งเทือกเขาจะมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด กับมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นได้ในบางช่วง ส่วนภาคกลางและภาคตะวันออกจะมีอากาศหนาวเย็นเกือบทั่วไป ส่วนมากทางตอนบนของภาค


ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนยังคงแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทย โดยจะมีกำลังแรงเป็นระยะ ๆ และต่อเนื่อง ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือยังคงพัดปกคลุมประเทศไทย และมีกำลังแรงเป็นระยะ ๆ


ส่วนในระยะต้นและกลางเดือนกุมภาพันธ์ ลักษณะอากาศจะแปรปรวน โดยอากาศจะเริ่มอุ่นขึ้น และเริ่มมีอากาศร้อนหลายพื้นที่ในตอนกลางวัน กับมีหมอกหนาในหลายพื้นที่ ส่วนบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีอากาศหนาวเย็นในตอนเช้า ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนที่แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนจะมีกำลังอ่อนลง


ภาคใต้


ตั้งแต่ช่วงปลายสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนมกราคม มีฝนตกชุกหนาแน่นเกือบทั่วไป โดยเฉพาะฝั่งตะวันออกตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป ซึ่งจะมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 - 80 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และหนักมากในบางแห่งก่อให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งในบางแห่ง


สำหรับคลื่นลมทะเลอ่าวไทยจะมีกำลังแรงเป็นระยะ ๆ ในบางช่วงจะมีคลื่นสูง 2 - 4 เมตร ส่วนทะเลอันดามันจะมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร เนื่องจากมีมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ และมีกำลังแรงเป็นระยะ ๆ โดยเฉพาะในช่วงเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม ประกอบกับในบางช่วงจะมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ นอกจากนี้ ในบางช่วงมักจะมีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงหรือพายุหมุนเขตร้อน เคลื่อนตัวเข้ามาใกล้หรือเคลื่อนผ่านภาคใต้


จากนั้นจนถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ฝนจะลดลง เนื่องจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อนลง และเริ่มเปลี่ยนเป็นลมตะวันออกหรือลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมแทน


รายละเอียดตามภาคต่างๆ

 

ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ช่วงปลายสัปดาห์ที่สามของเดือนตุลาคมถึงเดือนพฤศจิกายน จะมีอากาศเย็นเกือบทั่วไป กับมีอากาศหนาวบางแห่งในบางวันทางตอบนของภาค และมีหมอกในตอนเช้า โดยจะมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ10 - 20 ของพื้นที่ และอาจมีลมกระโชกแรงบางแห่งในบางวัน

 

สำหรับช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนมกราคม อากาศจะหนาวเย็นมากขึ้น โดยมีอากาศหนาวเย็น เกือบทั่วไป และมีอากาศหนาวจัด โดยเฉพาะบริเวณตอนของภาค สำหรับบริเวณยอดดอย ยอดภู รวมทั้ง เทือกเขาจะมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด และเกิดน้ำค้างแข็งขึ้นได้ในบางช่วง ส่วนช่วงต้นและกลางเดือนกุมภาพันธ์ ลักษณะอากาศจะแปรปรวน โดยอากาศจะเริ่มอุ่นขึ้นและมีฝนบางแห่งในบางวัน กับมีหมอกหนาในหลายพื้นที่ โดยยังคงมีอากาศหนาวเย็นในตอนเช้า และจะมีอากาศร้อนหลายพื้นที่ในตอนกลางวัน

 

ภาคกลางและภาคตะวันออก

ช่วงปลายสัปดาห์ที่สามของเตือนตุลาคมถึงเดือนพฤศจิกายน จะมีอากาศเย็นบางแห่งในบางวัน ทางตอนบนของภาค กับมีหมอกในตอนเช้า โดยจะมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 - 30 ของพื้นที่ และอาจลมกระโชกแรงบางแห่งในบางวัน สำหรับช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนมกราคม จะมีอากาศหนาวเย็นเกือบทั่วไป โดยเฉพาะตอนบนของภาคและบริเวณเทือกเขา กับจะมีหมอกหนาหลายพื้นที่ในบางช่วง


ส่วนช่วงต้นและกลางเดือนกุมภาพันธ์ ลักษณะอากาศจะแปรปรวน โดยอากาศจะเริ่มอุ่นอุ่นขึ้น และมีฝน บางแห่งในบางวัน โดยมีอากาศร้อนหลายพื้นที่ในตอนกลางวัน กับมีหมอกหนาหลายพื้นที่ แต่สำหรับทางตอนบนของภาคและบริเวณเทือกเขายังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้า

 

ภาคใต้ฝั่งตะวันออก (ฝั่งอ่าวไทย)

ช่วงปลายสัปดาห์ที่สามของเดือนตลาคมถึงต้นเดือนมกราคม จะมีฝนตกชกหนาแน่นเกือบหัวไปโดยเฉพาะตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป จะมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 - 80 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และหนักมากในบางแห่ง ซึ่งจะก่อให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งได้ในบางแห่งสำหรับคลื่นลมจะมีกำลังแรง จะมีคลื่นสูนสูง 2 - 4 เมตรในบางช่วง ตั้งแต่กลางเดือนมกราคมถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ฝนจะลดลง เว้นแต่ทางตอนล่างของภาค ยังคงมีฝนร้อยละ 30 - 40 ของพื้นที่ กับมีฝนหนักบางแห่งในบางวัน

 

ภาคใต้ฝั่งตะวันตก (ฝั่งทะเลอันดามัน)

ในช่วงปลายสัปดาห์ที่สามของเดือนตุลาคมถึงเดือนพฤศจิกายน จะมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 – 60 ของพื้นที่ กับมีฝนหนักบางแห่ง สำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามันจะมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร สำหรับเดือนธันวาคมถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ปริมาณและการกระจายของฝนจะลดลง โดยมีฝน ร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่

 

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ช่วงปลายสัปดาห์ที่สามของเดือนตลาคมถึงเดือนพฤศจิกายน จะมีอากาศเย็นในบางวัน กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 - 30 ของพื้นที่ สำหรับช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนมกราคม จะมีอากาศเย็นในหลายพื้นที่ กับจะมีหมอกหนาในบางช่วง ส่วนเดือนกุมภาพันธ์ ลักษณะอากาศจะแปรปรวน อากาศจะอุ่นขึ้น และมีฝนในบางวัน โดยจะมี อากาศเย็นในบางวัน กับมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน


ข้อควรระวัง


1. เดือนตุลาคม บริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออกและภาคใต้ตอนบนจะยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง ประกอบกับจะมีน้ำเหนือไหลบ่าลงมา และในบางช่วงจะมีน้ำทะเลหนุนสูง ซึ่งส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำล้นตลิ่งได้ในบางพื้นที่


2. เดือนธันวาคมและมกราคม บริเวณยอดดอยและยอดภูมักจะเกิดน้ำค้างแข็งขึ้นได้ กับจะมีหมอกหนาเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จึงควรระมัดระวังการเกิดอุบัติเหตุจากการใช้ยวดยานพาหนะไว้ด้วย


3. เดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ อาจมีคลื่นกระแสลมตะวันตก เคลื่อนตัวจากประเทศเมียนมาผ่านประเทศไทยตอนบนซึ่งจะทำให้ช่วงดังกล่าวเกิดฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงและอาจมีลูกเห็บตกได้ในบางพื้นที่


4. เดือนพฤศจิกายนและธันวาคม มักมีหย่อมความกดอากาศต่ำ และมีโอกาสสูงที่จะพัฒนาตัวเป็นพายุหมุนเขตร้อนแล้วเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้หรือเคลื่อนผ่านอ่าวไทยและภาคใต้ ซึ่งจะทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกชุกหนาแน่น รวมทั้งคลื่นลมจะมีกำลังแรง และอาจมีคลื่นพายุซัดฝั่ง ความสูงของคลื่นประมาณ 4 - 5 เมตร

รู้แล้ว ฤดูหนาว ปีนี้เริ่มเมื่อไหร่ คาดจะหนาวกว่าปีที่แล้ว

 อย่างไรก็ตาม  อย่าลืมเตรียมตัวรับลมหนาว

  • เตรียมเสื้อกันหนาว หมวก ถุงมือ และผ้าพันคอไว้ให้พร้อมนะคะ จะได้ออกไปทำกิจกรรมสนุกๆ ได้อย่างสบายใจ
  •  ชา กาแฟ หรือโกโก้ร้อนๆ สักแก้ว จะช่วยให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นได้เยอะเลยค่ะ
  •  หาที่เที่ยวในช่วงฤดูหนาวที่น่าสนใจ เช่น ทุ่งดอกไม้สวยๆ ใกล้กรุงเทพฯ หรือคาเฟ่บรรยากาศดีๆ ที่มีเครื่องทำความร้อน
  •  ลองหาเพื่อนๆ หรือครอบครัวไปทำกิจกรรมร่วมกัน เช่น ก่อกองไฟ แคมปิ้ง หรือไปดูหนัง
  •  อย่าลืมดูแลสุขภาพให้แข็งแรงด้วยนะคะ กินอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และพักผ่อนให้เพียงพอ