ด่วน คันกั้นน้ำด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยา อั้นไม่ไหว น้ำไหลทะลักท่วม ชุมชนกว่า 100 หลังจมแล้ว (6 ต.ค.)
ล่าสุด พื้นที่ ตำบลธรรมามูล อ.เมือง จ.ชัยนาท ซึ่งเป็นพื้นที่ทางด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยา มวลน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ได้ไหลทะลักเข้าท่วมในพื้นที่ ม.4 ต.ธรรมามูล เนื่องจากคันดินที่ใช้กันน้ำเกิดพังทลาย เจ้าหน้าที่ไม่สามารถนำเครื่องจักร เครื่องมือ รวมไปถึงกระสอบทรายเข้าไปทำการอุดได้
ส่งผลทำให้มีพื้นที่ชุมชนที่อยู่อาศัย และพื้นที่ทางการเกษตรถูกน้ำท่วมสูง 50-100 ซม. ชาวบ้านกว่า 100 หลังคาเรือนได้รับผลกระทบ นอกจากนี้ทางเทศบาลตำบลธรรมามูล นำรถแบคโฮ ลงพื้นที่เสริมสร้างคันดินตามจุดเสี่ยงต่างๆที่น้ำอาจจะกัดเซาะไหลเข้าท่วมพื้นที่ชุมชนเพื่อป้องกันไม่ให้มวลน้ำเข้าท่วมขยายเป็นวงกว้าง
จากที่เมื่อวันที่ 4ต.ค.67 กรมชลประทานได้ออกประกาศแจ้งเตือนฉบับที่10ไปยัง 11 จังหวัดลุ่มน้ำภาคกลาง ประกอบด้วย จ.อุทัยธานีนครสวรรค์ ชัยนาท ลพบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี สุพรรณบุรี และกรุงเทพมหานคร ว่า ในช่วงวันที่11ตุลาคม คาดว่าจะมีปริมาณน้ำเหนือไหลผ่านจุดวัดน้ำC2หน้าค่ายจิรประวัติ ลงสู่เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาทในอัตรา2,200-2,500ลบ.ม./วิ และมวลน้ำสมทบจากแม่น้ำสะแกกรัง และลำน้ำสาขาอีกประมาณ 300 ลบ.ม./วิ รวม 2,800 ลบ.ม./วิ ทำให้จำเป็นต้องมีการพิจารณาปรับแผนการระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยาเพื่อลดผลกระทบทั้งด้านเหนือเขื่อน และท้ายเขื่อน โดยจะปรับอัตราการระบายน้ำแบบขั้นบันได้ขึ้นไปที่เกณฑ์ 2,400 ลบ.ม./วิ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายเขื่อนโดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำริมคลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล บ้านบางหลวงโดด ต.บางบาล ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยระดับน้ำจะเพิ่มขึ้น 60-70 ซม.จึงขอให้ประชาชนยกของขึ้นที่สูงและเฝ้าสังเกตความเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำ และติดตามประกาศจากทางราชการอย่างใกล้ชิดต่อไปนั้น
ล่าสุดสถานการณ์น้ำที่เขื่อนเจ้าพระยากุญแจสำคัญในการบริหารจัดการน้ำลงสู่ลุ่มภาคกลางได้คงอัตราการระบายเพื่อรองรับมวลน้ำเหนือและพบว่าปริมาณน้ำเหนือที่ไหลลงเขื่อนเจ้าพระยาผ่านจุดวัดน้ำC2หน้าค่ายจิรประวัติ จ.นครสวรรค์ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด(14.00น.) วัดได้2,383ลบ.ม./วิ(ลูกบาศเมตรต่อวินาที)
ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยาได้ปรับเพิ่มการระบายจากเดิม2,100ลบ.ม./วิขึ้นไปที่2,199ลบ.ม./วิ เพื่อลดผลกระทบกับพื้นที่เหนือเขื่อนและท้ายเขื่อนรวมทั้งสร้างพื้นที่ว่างในลำน้ำรองรับปริมาณน้ำเหนือทำให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาทรงยกตัวขึ้น28ซม.ใน 24 ชม. ล่าสุดวัดได้17.30ม.รทก.(เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง) ขณะที่ระดับน้ำท้ายเขื่อนยกตัวขึ้น60ซ.ม.ในรอบ24ชม.ล่าสุดวัดได้15.10ม.รทก.โดยวันนี้เขื่อนเจ้าพระยามีแผนจะเพิ่มการระบายขึ้นไปที่เกณฑ์ไม่เกิน2,300ลบ.ม./วิ
ทั้งนี้จากการระบายน้ำในเกณฑ์ไม่เกิน2,300ลบ.ม./วิ จะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายเขื่อนตั้งแต่ อ.สรรพยา จ.ชัยนาทลงไป จ.สิงห์บุรีอ่างทอง พระนครศรีอยุธยา โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำริมคลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล บ้านบางหลวงโดด ต.บางบาล ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยระดับน้ำจะเพิ่มขึ้น10-20ซม.ใน24ชม.ข้างหน้าจึงขอให้ประชาชนยกของขึ้นที่สูงและเฝ้าสังเกตความเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำและติดตามประกาศจากทางราชการอย่างใกล้ชิดต่อไป
ล่าสุด พื้นที่ ตำบลธรรมามูล อ.เมือง จ.ชัยนาท ซึ่งเป็นพื้นที่ทางด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยา มวลน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ได้ไหลทะลักเข้าท่วมในพื้นที่ ม.4 ต.ธรรมามูล เนื่องจากคันดินที่ใช้กันน้ำเกิดพังทลาย เจ้าหน้าที่ไม่สามารถนำเครื่องจักร เครื่องมือ รวมไปถึงกระสอบทรายเข้าไปทำการอุดได้
ส่งผลทำให้มีพื้นที่ชุมชนที่อยู่อาศัย และพื้นที่ทางการเกษตรถูกน้ำท่วมสูง 50-100 ซม. ชาวบ้านกว่า 100 หลังคาเรือนได้รับผลกระทบ นอกจากนี้ทางเทศบาลตำบลธรรมามูล นำรถแบคโฮ ลงพื้นที่เสริมสร้างคันดินตามจุดเสี่ยงต่างๆที่น้ำอาจจะกัดเซาะไหลเข้าท่วมพื้นที่ชุมชนเพื่อป้องกันไม่ให้มวลน้ำเข้าท่วมขยายเป็นวงกว้าง