เป็นหวัดร้อนไม่ควรกิน "ขิง" ไม่ช่วยให้หายแถมอาจยิ่งทรุด

17 ตุลาคม 2567

ว่อนเตือน คนเป็นหวัดร้อนไม่ควรกินขิง กินแล้วไม่ได้ช่วยให้หายแถมอาจยิ่งทรุดกว่าเดิม กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข ยืนยันแล้ว

เราทุกคนคงเคยได้ยินกว่า ถ้าเป็นหวัดต้องกินขิง แต่รู้ไหมว่าไม่จริงเสมอไป เพราะล่าสุดกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข ยืนยันข้อมูลคำเตือน "เป็นหวัดร้อน ไม่แนะนำให้กินขิง" ไม่ได้ช่วยให้หายแถมอาการอาจยิ่งทรุดลงกว่าเดิม

 

เป็นหวัดร้อนไม่ควรกิน ขิง ไม่ช่วยให้หายแถมอาจยิ่งทรุด

จากที่มีข้อมูลปรากฏเกี่ยวกับเรื่องคนที่มีอาการหวัดร้อนไม่แนะนำทานขิง เพราะไม่ได้ช่วยให้หายและอาจทำให้อาการทรุดลง ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง

 

เป็นหวัดร้อนไม่ควรกิน ขิง ไม่ช่วยให้หายแถมอาจยิ่งทรุด

 

ขิง (สด) ตามศาสตร์การแพทย์แผนจีน ใช้ในโรคหวัดจากลมเย็น ไม่ได้ใช้ในโรคหวัดจากความร้อน อีกทั้งตัวขิงสดจะบํารุงไฟทําลายอิน ดังนั้นผู้ที่มีความร้อนมากและความร้อนจากอินพร่องไม่ควรทาน เพราะจากการทานขิงรักษาโรคหวัดจากความร้อน อาจทําให้ความร้อนยิ่งเพิ่มขึ้น และอาจทําให้อาการแย่ลงได้ 

เนื่องจากขิงเป็นสมุนไพรฤทธิ์ร้อนและมีฤทธิ์กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ตามศาสตร์การแพทย์แผนจีนนั้น การรับประทานขิงในผู้สูงอายุที่มีอาการหวัดร้อนอาจทําให้ความดันโลหิตสูงขึ้น โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีภาวะความดันโลหิตสูงหรือกําลังรับประทานยาลดความดันโลหิต ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานขิงเมื่อมีอาการหวัดร้อน

อย่างไรก็ตาม การจําแนกประเภทของอาการหวัดตามศาสตร์การแพทย์แผนจีนโดยใช้หลักการของสมดุลความร้อนและความเย็นในร่างกาย (หยิน-หยาง) หากร่างกายเสียสมดุลความร้อน-เย็น จะทําให้เกิดโรคหรืออาการผิดปกติ ทั้งนี้การแพทย์แผนจีนแบ่งประเภทหวัดตามอาการ ได้แก่

- หวัดเย็น จะมีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล มีไข้ต่ำ เสมหะสีเหลืองข้น ปวดหัว ปัสสาวะมีสีเข้มกว่าปกติ หงุดหงิด ไม่สบาย ครั่นเนื้อครั่นตัว

- หวัดร้อน มีอาการหนาวสะท้าน ซึม อ่อนเพลีย มือเท้าเย็น น้ำมูกใส เสมหะใส ปัสสาวะมาก

ขอบคุณ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก

 

เป็นหวัดร้อนไม่ควรกิน ขิง ไม่ช่วยให้หายแถมอาจยิ่งทรุด