เรือโป๊ะชนสะพานบางปะกง เสาตอม่อหัก เตือนเลี่ยงเส้นทางด่วน

18 ตุลาคม 2567

เรือโป๊ะพุ่งชนสะพานบางปะกงอย่างแรง ทำให้เสาตอม่อหักเสียหาย ส่งผลกระทบต่อการจราจร ผู้ใช้รถใช้ถนนโปรดหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว

เรือโป๊ะพุ่งชนเสาตอม่อ วันที่ 18 ต.ค.2567 ความคืบหน้ากรณีอุบัติเหตุเรือโยงลากเรือโป๊ะจะออกปากอ่าวไทยช่วงน้ำลง ขณะที่จะลอดใต้สะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง กระแสน้ำแรงทำให้เรือโป๊ะไหลออกนอกร่องน้ำแล้วไปชนเสาตอม่อสะพานเต็มแรง จนหักและขยับออกจากแนวคานสะพาน เมื่อวันที่ 16 ต.ค.2567 ที่ผ่านมา

เรือโป๊ะชนสะพานบางปะกง เสาตอม่อหัก เตือนเลี่ยงเส้นทางด่วน

ต่อมา หมวดทางหลวงบางปะกง แขวงทางหลวงฉะเชิงเทรา ได้เข้าสำรวจความเสียหายของตอม่อสะพานบางประกง ถนนเทพรัตน(บางนา-ตราด) กม.50 ช่องคู่ขนาน ขาเข้าชลบุรี พบเสาตอม่อด้านนอกสุดที่ค้ำคานสะพานช่วงที่เป็นฟุตบาทและอยู่เลนซ้าย ถูกชนจนหักจนเอนและเห็นเหล็กโผล่ชัดเจน พร้อมประสานไปยังศูนย์สะพานเพื่อดำเนินการสำรวจความเสียหาย ตัวโครงสร้างของสะพาน และประเมินการซ่อมแซม

 

สะพานบางปะกง เสาตอม่อหัก

 

ล่าสุดวันนี้ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดชลบุรี – Chonburi PR ได้แจ้งประชาชน ผู้ใช้รถใช้ถนนให้หลีกเลี่ยงเส้นทาง “สะพานบางปะกง” ควรเลี่ยงใช้เส้นทางอื่น

ความคืบหน้า จากกรณีเกิดอุบัติเหตุเรือโยงลากเรือโป๊ะชนเสาตอม่อสะพานชำรุดขณะลอดใต้สะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง  ช่วงถนนเทพรัตน (บางนา-ตราด) กม.50+500  ช่องคู่ขนาน มุ่งหน้าชลบุรี ที่หมู่ 13 ต.บางปะกง อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาฉะเชิงเทราได้ออกประกาศแจ้ง เรื่องใช้ความระมัดระวังการเดินเรือผ่านสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง

 

เรือโป๊ะชนสะพานบางปะกง เสาตอม่อหัก เตือนเลี่ยงเส้นทางด่วน

 

วันนี้ (18 ตุลาคม 2567) ช่วงบ่าย นายมังกร ยี่หร่า รองผู้อำนวยการ ฝ่ายปฏิบัติการ  แขวงทางหลวงฉะเชิงเทรา เปิดเผยความเสียหายของตอม่อสะพานเบื้องต้น พบว่าเสาตอม่อด้านนอกสุดที่ค้ำคานสะพานช่วงที่เป็นฟุตบาทและอยู่ในเลนซ้าย ถูกชนจนหักเอน เห็นเหล็กโผล่ชัดเจน และขยับออกจากแนวคานสะพาน แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้เส้นทางจราจร รวมถึงตัวโครงสร้างของสะพาน  

      

โดยทางขนานปกติก่อนขึ้นสะพานจะมี 2 เลน หลังจากขึ้นสะพาน จะมี 3 เลน และหลังจากลงสะพานแล้วจะเหลือ 2 เลนโดยขณะนี้ปิดการจราจร บนสะพานเลนซ้ายสุดโดยใช้แบริเออร์ชนิดบรรจุน้ำกั้นปิดไว้  เพื่อป้องกันการสั่นสะเทือนและการเทน้ำหนักของรถบรรทุกที่ใช้เส้นทางดังกล่าว  ซึ่งจะเหลือ 2 ช่องทางในการสัญจร 

 

สำหรับช่วงเย็นวันนี้ (18 ตุลาคม 2567) มีการวางมาตรการความปลอดภัยในช่วงกลางคืนมีไฟฟ้าแสงสว่างบนสะพานและถนนทางด่วนทำให้มองป้ายเตือนชัดเจน 

 

จากการประเมินการซ่อมแซม มูลค่าความเสียหายทั้งหมด เบื้องต้นได้ประสานกับทางศูนย์สร้างและบูรณะสะพานที่ 3 ปทุมธานี เข้ามาตรวจสอบความเสียหายโดยได้ให้ความเห็นว่าไม่เป็นอันตราย  และจะมีการตรวจสอบโดยละเอียดอีกครั้งโดยนักประดาน้ำมาดำตรวจตอม่อด้านล่างเสียหายมากน้อยเพียงใด และหลังจากนั้นจะได้ประเมินราคาความเสียหาย โดยหาบริษัทเข้าดำเนินการซ่อมแซมต่อไป

 

📌📌📌สำหรับพี่น้องประชาชนที่มีข้อสงสัย หรือต้องการสอบถามข้อมูล สามารถติดต่อได้ที่ นายมังกร ยี่หร่า รองผู้อำนวยการ ฝ่ายปฏิบัติการ  แขวงทางหลวงฉะเชิงเทรา โทรศัพท์ 086-0337215 หรือที่แขวงทางหลวงฉะเชิงเทรา 038-511015 ได้ตามวันและเวลาราชการ

 

Cr.ส.ปชส.ฉะเชิงเทรา