จากกรณีตำรวจยึด "นาฬิกาหรูบอสพอล" โดยล่าสุดนายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ "บอสพอล" ได้ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อวานหลังจากที่ตำรวจมีการตรวจค้น 11 จุดของบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป มีการค้นที่บริษัท ตนเองไม่ได้ติดใจในส่วนตรงนั้น เพราะเจ้าหน้าที่ปฏิบัติถูกต้อง มีหมายค้นชัดเจน
แต่ติดใจตรงที่ทางตำรวจนำพนักงานของบริษัทฯ ไป 11 คน ไปสอบปากคำ มีทั้งเลขาของบอสพอล , น้องสาวบอสพอล , เลขาบอสปัน และพนักงานคนอื่นๆ ในวันนี้ที่ตนมา สน.พหลโยธิน เป็นเพียงการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น แต่ในอนาคตหากพนักงานบริษัทดิไอคอน จะดำเนินคดีจะได้ใช้เป็นหลักฐานชั้นศาลได้
โดยในวันศุกร์ตนจะพาพนักงานไปร้องที่สำนักงานจเรตำรวจ ให้ช่วยตรวจสอบการทำงานของตำรวจที่มีการไปค้นว่าอยู่ในกรอบของกฎหมายหรือไม่ และถ้าเวลาเหลือตนจะพาพนักงานชุดเดิมไปร้องที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติด้วย ว่ามีการดำเนินการที่อยู่นอกกรอบของรัฐธรรมนูญหรือไม่
ส่วนการออกหมายจับครั้งที่ 2 อยากสื่อสารไปถึงสำนักงานศาลยุติธรรมให้ดูแล ถ้าตำรวจไปขอหมายจับ ให้พิจารณาว่ามีเหตุสมควรหรือไม่ เป็นห่วงสิทธิ์ของทุกคน
ในส่วนเรื่องที่ตำรวจไปยึดนาฬิกาของบอสพอลเป็นของปลอมนั้น ทนายวิฑูรย์ ตอบว่า ตนไม่รู้ว่าห้องที่เข้ายึดนั้นเป็นของใคร ปกติเวลาคุยกับบอสพอล จะคุยแค่เรื่องเนื้อคดีที่โดน คือฉ้อโกงประชาชน ไม่ได้คุยเรื่องอื่น
โดยก่อนหน้านี้ทางด้าน "หนุ่ม กรรชัย" ได้ออกมาเผยในรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ว่า คนที่สะสมนาฬิกาได้ออกมาพูดถึงนาฬิกาหรู 19 เรือน ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยึดมาได้นั้นเป็นนาฬิกาเก๊ เรียกได้ว่าเก๊ยันกล่อง เพราะรุ่นกับตัวเรือนมีความไม่ตรงกัน หนุ่ม กรรชัย จึงอยากวอนให้เจ้าหน้าที่เชิญผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบเพื่อความกระจ่าง เพราะบอสพอลนั้นมีความคิดที่ฉลาดมากอาจทำของปลอมขึ้นมาให้เจ้าหน้าที่ยึดไปเพื่อที่จะได้หมดเรื่องหมดราว ส่วนนาฬิกาของจริงที่บอสพอลใส่ถ่ายรูปนั้นไม่มีสักเรือนที่อยู่ในรายการนาฬิกาหรู ที่เจ้าหน้าที่ยึดไป