คืบหน้าดิไอคอนกรุ๊ป เมื่อเวลา 16.24 น. วันที่ 24 ต.ค. 67 ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล เดินทางมาแจ้งความเอาผิดนักร้องสาว ก. กรณีบอสพอล ถูกรีดทรัพย์ 10 ล้านบาท เพื่อแลกกับการไม่ร้องเรียนบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป
นายวิฑูรย์ เปิดเผยว่า วันนี้ตนได้มีการส่งทีมทนายนำเอกสารไปให้บอสพอลลงนามมอบอำนาจให้มาดำเนินคดีแจ้งความเอาผิดกับนักร้องสาว ก. ในข้อหากรรโชกทรัพย์ ส่วนรีดทรัพย์จะเข้าหรือไม่จะต้องคุยรายละเอียดกับทางพนักงานสอบสวนอีกครั้ง เนื่องจากเคยถูกเรียกเงินจำนวน 10 ล้านบาทเพื่อแลกกับการร้องเรียนบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป
นายวิฑูรย์ เปิดเผยว่า วันนี้ตนได้มีการส่งทีมทนายนำเอกสารไปให้บอสพอลลงนามมอบอำนาจให้มาดำเนินคดีแจ้งความเอาผิดกับนักร้องสาว ก. ในข้อหากรรโชกทรัพย์ ส่วนรีดทรัพย์จะเข้าหรือไม่จะต้องคุยรายละเอียดกับทางพนักงานสอบสวนอีกครั้ง เนื่องจากเคยถูกเรียกเงินจำนวน 10 ล้านบาทเพื่อแลกกับการร้องเรียนบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป
ส่วนเรื่องที่ 2 อยู่ระหว่างการตรวจสอบและพิจารณาที่จะดำเนินคดีกับทางนานเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด และพยานเท็จ ที่อ้างว่าเป็นคนสนิทใกล้ชิดกับบอสพอล นำข้อมูลว่าบอสพอลมีการเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลหรือคริปโต ซึ่งทางตำรวจได้มีการออกมายืนยันแล้วว่าข้อมูลดังกล่าวจากบุคคลนี้เชื่อถือไม่ได้ ขณะนี้ทางทีมทนายมีการรวบรวมพยานหลักฐานและเตรียมทำเอกสารเพื่อจะแจ้งความดำเนินคดีต่อไป แต่ยังไม่มีกำหนดวันเวลาที่แน่ชัด โดยสาเหตุที่ต้องดำเนินคดีเพราะทำให้บริษัทเสื่อมเสียและหน่วยงานที่ถูกพาดพิงเสียหายไปด้วย ซึ่งบอสพอลยืนยันไม่รู้จักบุคคลดังกล่าว
ส่วนเรื่องที่ 3 บอสพอลก็มีการสั่งให้รวบรวมข้อมูล ในการดำเนินคดีกับทนายความชื่อดังคนหนึ่ง ที่เป็นหนึ่งในทนายดรีมทีม ซึ่งก่อนหน้าที่เหล่าบอสจะถูกจับกุมดำเนินคดี ทนายคนดังกล่าวมีการโทรศัพท์หาทางบอสพอลเพื่อเจรจาต่อรอง โดยกล่าวว่าให้ทางบอสพอลจ่ายเงิน 7 ล้านบาท เพื่อแลกกับการที่จะไม่นำผู้เสียหายกลุ่มนี้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับดิไอคอน โดยบอสพอลยังไม่ได้จ่ายจำนวนดังกบ่าวไปแต่อย่างใด ซึ่งทางทีมทนายก็จะต้องไปตรวจสอบดูว่าจำนวนเงินดังกล่าวตรงกับความเสียหายของผู้เสียหายกลุ่มนี้หรือไม่ ทั้งนี้เลขาของบอสพอลได้มีการบันทึกเสียงขณะเจรจากันไว้ หากตนได้คลิปเสียงดังกล่าวจะดูความเหมาะสมแล้วจะเปิดเผยอีกครั้ง
และเรื่องที่ 4 ตนจะรวบรวมรายชื่อแม่ข่ายที่มีพฤติกรรมไปเชิญชวนผู้เสียหายเป็นตัวแทนจำหน่าย จากนั้นแม่ข่ายขัดผลประโยชน์กับบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป แต่มาเนียนอ้างว่าเป็นผู้เสียหายด้วย โดยจะนำเอกสารรายชื่อมาให้กับทางพนักงานสอบสวนเพื่อตรวจสอบต่อไป
และสำหรับที่ DSI ได้รับคดีดิไอคอน กรุ๊ป เป็นคดีพิเศษในส่วนคดีฟอกเงินนั้น ตนมองว่าดี เพราะพนักงานสอบสวนบก.ปคบ. มีการทำงานหนักจนล้น DSI มาช่วยในคดีนี้ก็จะเป็นการแบ่งเบาพนักงานสอบสวนบก.ปคบ.ไปได้เยอะ
ส่วนโทรศัพท์มือถือของพนักงานดิไอคอน ที่ถูกเชิญตัวมาให้ปากคำในฐานะพยาน และถูกยึดไปเมื่อวันที่ 22 ต.ค. 2567 ล่าสุดได้รับคืนหมดแล้วเมื่อช่วงบ่ายสองที่ผ่านมา จึงจะไม่ดำเนินการเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด เบื้องต้นขณะนี้ยืนยันยังไม่มีการยื่นประกันตัว 18 บอส ที่อยู่ในเรือนจำ