"ทนายตั้ม" ตัดพ้อหนักถึง "เจ๊อ้อย" พร้อมโวยตำรวจอุ้มพยานทั้งที่ไม่มีหมาย

05 พฤศจิกายน 2567

"ทนายตั้ม" ษิทรา เบี้ยบังเกิด โผล่กองปราบปราม ให้การคดี "เจ๊อ้อย" แจ้งความฉ้อโกงเงินไปกว่า 71 ล้าน ตัดพ้อหนักไม่น่าทำกันแบบนี้

วันที่ 5 พฤศจิกายน 2567 "ทนายตั้ม" โผล่กองปราบ ให้การคดีเจ๊อ้อย 71 ล้าน โดยที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับคดีที่ น.ส.จตุพร หรือ เจ๊อ้อย แจ้งความฉ้อโกงเงินไปกว่า 71 ล้านบาท

ทนายตั้ม ตัดพ้อหนักถึง เจ๊อ้อย พร้อมโวยตำรวจอุ้มพยานทั้งที่ไม่มีหมาย

โดยนายษิทรากล่าวตอนหนึ่งว่า หากทางตำรวจต้องการให้ตนมาให้ข้อมูล ตนรอมาตั้งนานแล้ว ที่ผ่านมา ตนอยากให้ฝ่ายเจ๊อ้อยให้การให้เต็มที่ ตนเคยทำหนังสือมาครั้งหนึ่งตั้งแต่คดีโอนมาที่นี่ใหม่ๆ ซึ่งตนบอกว่า ขอให้สอบผู้กล่าวหาอย่างละเอียดกับพยานโดยแยกกัน ไม่ได้อยากให้มีทนายความด้วย

ทนายตั้ม ตัดพ้อหนักถึง เจ๊อ้อย พร้อมโวยตำรวจอุ้มพยานทั้งที่ไม่มีหมาย

 

นายษิทรากล่าวต่อว่า จริงๆ ตนก็รู้ว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร ตนก็อยากให้ตำรวจกองปราบดำเนินการเต็มที่ ถ้าจู่ๆ ตนรีบมาเดี๋ยวตำรวจก็จะมีเวลาในการทำคดีน้อย ตนก็เลยปล่อย ไม่ได้มาหาตำรวจก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ นายษิทรากล่าวอีกว่า แต่วันนี้ทางตำรวจก็ไปหาตนถึงบ้านแล้ว ทั้งชุดสืบอะไรไป ตนก็เลยไหนๆ ก็อยากจะคุยกับตนแล้ว ตนก็เลยเข้ามา

 

 ทั้งนี้ ขอฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจนิดหนึ่ง การที่ไปเอาตัวพยานไปโดยที่ไม่มีหมาย ที่จริงถ้าไปอย่างถูกต้อง เอาหมายไป เขาก็ยินยอมไปทุกคน หมายมาที่ตน ตนก็ยินยอม หรือว่าพยานที่อ้างเป็นลูกน้องเก่าของตน แต่นี่คุณเล่นเอาตำรวจ 2-3 คนไป

ทนายตั้ม ตัดพ้อหนักถึง เจ๊อ้อย พร้อมโวยตำรวจอุ้มพยานทั้งที่ไม่มีหมาย

 

สุดท้ายนายษิทรากล่าวทิ้งท้ายว่า  "ตนเดินทางมาวันนี้ เพื่ออยากจะชี้แจงข้อเท็จจริง อย่างไรก็ตาม พี่อ้อยหมดรักตนแล้ว ก็ไม่น่าทำกันแบบนี้"