แฉ "ทนายตั้ม" นกรู้ ไหวตัวตั้งแต่เช้า ตัดสินใจสกัดจับทันที

07 พฤศจิกายน 2567

พลตำรวจโทอัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เผย ทนายตั้มและภรรยา จะหลบหนีออกนอกประเทศ ไหวตัวตั้งแต่ 9 โมงเช้า

วันที่ 7 พฤศจิกายน 2567 พลตำรวจโทอัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ ถึงการจับกุม ทนายตั้มและภรรยา โดยบอกว่าคดีดังกล่าว ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกำชับให้ตนเข้ามาดูแล ให้ตำรวจสวบสวยด้วยการรัดกุม รอบครอบ เผยพบว่าทนายตั้มจะหลบหนีออกนอกประเทศ

 

แฉ ทนายตั้ม นกรู้ ไหวตัวตั้งแต่เช้า ตัดสินใจสกัดจับทันที

พลตำรวจโทอัคราเดช เผยว่า ทนายตั้มและภรรยามีพฤติการณ์จะหลบหนีออกนอกประเทศ เพราะอาจรับรู้ว่าตำรวจจะออกหมายจับ เนื่องจากทางตำรวจขอหมายจับช่วงเวลา 11:00 น. แต่ทนายตั้มออกจากบ้านย่านตลิ่งชันในเวลา 09:00 น.

 

แฉ ทนายตั้ม นกรู้ ไหวตัวตั้งแต่เช้า ตัดสินใจสกัดจับทันที

 

เมื่อถามว่าทนายตั้มจะข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้านมีบุคคลอื่นให้การช่วยเหลือหรือไม่ ประเด็นนี้ยังต้องสอบปากคำเพิ่มเติม

โดยพฤติการณ์ทนายตั้ม ขับรถมุ่งหน้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านฝั่งตะวันออก แต่ตำรวจได้ติดตามจนประสานตำรวจทางหลวงในพื้นที่ช่วยกันสกัดจับก่อนจะหนีออกนอกประเทศ โดยตำรวจเริ่มสะกดรอย จากสิ่งที่ตำรวจตรวจได้จน พบว่าเริ่มขับออกจากกรุงเทพมหานครและเขตปริมณฑลจึงตัดสินใจเข้าจับกุมเนื่องจากสมรรถนะรถตำรวจไม่เทียบเท่ารถที่ทนายตั้มและภรรยาใช้เดินทาง และมีแนวโน้มออกนอกประเทศ หากปล่อยไว้เนิ่นนานอาจจะติดตามได้ยาก

แฉ ทนายตั้ม นกรู้ ไหวตัวตั้งแต่เช้า ตัดสินใจสกัดจับทันที

 

โดยการออกหมายจับในวันนี้ พบว่าตัวทนายตั้มมีการไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน จากกรณีเจ๊อ้อยเงินจำนวน 71 ล้าน เมื่อถามว่าทนายตั้มมีพฤติการณ์อย่างไร บอกว่าตามที่ปรากฏในสื่อ มีการไปปรากฏตัวตามที่ต่างๆ

เมื่อถามขนาดจับกุมทนายตั้มมีท่าทีอย่างไร ผู้ช่วยผู้จัดการตำรวจแห่งชาติ ระบุทนายตั้มจำนนต่อหลักฐาน ส่วนที่อ้างว่าจะไปปฎิบัติธรรมก็เป็นคำให้การของผู้ต้องหาที่มีสิทธิ์จะพูด 

 

แฉ ทนายตั้ม นกรู้ ไหวตัวตั้งแต่เช้า ตัดสินใจสกัดจับทันที

 

ผู้ช่วยผู้จัดการตำรวจแห่งชาติ ยังระบุเพิ่ม นอกจากเคสของเจ๊อ้อย ยังมีผู้เสียหายรายอื่นอีก 3 เคส ที่เตรียมเข้าดำเนินคดีกับทนายตั้ม ซึ่งมีความเสียหายแตกต่างกันไป