"ทนายธรรมราช" เรียกได้ว่าโพสต์เดือด ๆ เกี่ยวกับ พระธรรมวินัยการขาดจากการเป็นพระภิกษุ ก่อนทิ้งท้ายเดือด ๆ โดย เจ้าตัวได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ทนายธรรมราช The Lawyer of legality. ระบุข้อความว่า
พระธรรมวินัยการขาดจากการเป็นพระภิกษุมี 2 ทางคือ 1 ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ด้วยการกระทำเวจมรรค เท่ากับปรับอาบัติปาราชิก ซึ่งภิกษุต้องขาดจากความเป็นสมณะทันที ไม่ต้องมีพิธีหรือสมัครใจใดๆ
และ 2 การลาสิกขา หรือการสละสมณเพศ ต้องมีความสมัครใจเป็นที่ตั้ง การกระทำที่ไม่เข้าข่ายการสมัครใจสึก จะกล่าวหาว่าพระสงฆ์นั้น แต่งกายเลียนแบบสงฆ์หาได้ไม่
กรณีพระสงฆ์ไม่มีสังกัดวัด ก็เทียบเคียงได้เช่นเดียวกัน จะอ้างเหตุนี้ไปบังคับจับสึกพระสงฆ์หาทำได้ไม่ หรือจะไปกล่าวหาว่าท่านขาดจากความเป็นพระแต่งกายเลียนแบบสงฆ์ ด้วยเหตุที่ยังไม่มีสังกัด ก็ไม่อาจทำได้เช่นเดียวกัน
ผู้ใดฝ่าฝืนบังคับจับสึกพระ อาจเข้าข่ายการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 309
มาตรา ๓๐๙ ผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้าความผิดตามวรรคแรกได้กระทำโดยมีอาวุธ หรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป หรือได้กระทำเพื่อให้ผู้ถูกข่มขืนใจทำ ถอน ทำให้เสียหาย หรือทำลายเอกสารสิทธิอย่างใด ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้ากระทำโดยอ้างอำนาจอั้งยี่หรือซ่องโจร ไม่ว่าอั้งยี่หรือซ่องโจรนั้นจะมีอยู่หรือไม่ ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงเจ็ดปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท
พวกขบวนการทำลายพระพุทธศาสนากรุณาจำใส่กะลาหัวไว้นะครับ