จากกรณี ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต นางสรารัตน์ หรือ "แอม ไซยาไนด์" (จำเลยที่ 1) วางยาสังหารนางสาวศิริพร หรือ ก้อย พร้อมตัดสินจำคุก 1 ปี 4 เดือน พ.ต.ท.วิฑูรย์ อดีตสามีนางสรารัตน์ และอดีตรองผกก.สภ.สวนผึ้ง (จำเลยที่ 2) และตัดสินจำคุก นางสาวธันย์นิชา หรือ "ทนายพัช" (จำเลยที่ 3) อดีตทนายความนางสรารัตน์ จำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา พร้อมชดใช้ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท ในความผิดฐานช่วยเหลือจำเลยที่ 1 มิต้องรับโทษหรือรับโทษน้อยลง และซ่อนเร้นทำลายหลักฐาน
โดย พ.ต.ท.วิฑูรย์ อดีตสามีของแอม และ ทนายพัช ธันย์นิชา ทนายความของแอม ถูกดำเนินคดีในฐานะผู้สมรู้ร่วมคิด โดย พ.ต.ท.วิฑูรย์ ถูกกล่าวหาว่าช่วยแอมซ่อนทรัพย์สินที่ขโมยมาจากก้อย ส่วน ทนายพัช ถูกกล่าวหาว่ายุยงส่งเสริมให้ พ.ต.ท.วิฑูรย์ ทำลายหลักฐาน โดยบอกว่า "ถ้าจะสู้ให้หลุด ก็ต้องไม่ปรากฏของกลาง"
ทั้งสามคนถูกพนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 5 ฟ้องร้องดำเนินคดีใน 18 กรกฎาคม 2566 โดย แอม ถูกตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ชิงทรัพย์, ปลอมปนอาหารเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ส่วน พ.ต.ท.วิฑูรย์ จำเลยที่ 2 และ ทนายพัช จำเลยที่ 3 ถูกตั้งข้อหาช่วยเหลือผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษ และ ซ่อนเร้น ทำลายหลักฐาน
การกระทำดังกล่าวถูกมองว่าเป็นการ ขัดขวางกระบวนการยุติธรรม และ ช่วยเหลือผู้กระทำผิดไม่ให้ต้องรับโทษหรือให้รับโทษน้อยลง ซึ่งเป็นความผิดทางกฎหมายที่ร้ายแรง อย่างไรก็ดีทนายพัชปฏิเสธข้อกล่าวหา และได้ประกันตัวไปในเงิน 100,000 บาท เช่นเดียวกับ พ.ต.ท.วิฑูรย์ อดีตสามีของแอม