จากกรณีเมื่อวันที่ 22 พ.ย.67 ที่ผ่านมาพระปีนเสา หรือ พระครูปลัดธีระ โดนชายฉกรรจ์ดักกระโดดถีบบริเวณหน้าช่องดัง หลังจากที่ได้เดินทางไปออกรายการสดทางโทรทัศน์ ซึ่งพระครูปลัดธีระ ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.บางเขน แล้ว เพราะมองว่าเป็นการกระทำการอุกอาจ ก่อเหตุในพื้นที่สถานีโทรทัศน์ เวลากลางวัน ต่อหน้าประชาชน ขณะที่ตำรวจชุดสืบสวน อยู่ระหว่างประสานกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุ เพื่อเร่งพิสูจน์ทราบกลุ่มผู้ก่อเหตุและติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี ล่าสุดวันที่ 23 พ.ย.67 หลวงพี่น้ำฝน ได้เปิดเผยถึงประเด็นนี้ว่าชายฉกรรจ์ทั้ง 3 คน ที่โดดถีบ ‘พระปีนเสา’ เป็นลูกศิษย์ตนเองจริง โดยได้ว่ากล่าวตักเตือนแล้ว
ส่วนสาเหตุคือไปรอเจอหลวงพี่น้ำฝนที่ช่อง8 ตอนแรกจะไปออกรายการ แต่ยกเลิกไม่ได้ไป พอดูรายการแล้วมีการพาดพิงหลวงพี่จึงของขึ้นบันดาลโทสะ ประมาณว่าศิษย์มีครู เบื้องต้นได้สั่งให้ไปมอบตัวรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว
ก่อนหน้านี้ พระครูปลัดธีระ หรือ พระปีนเสา และนายประพันธุ์ กิตติฤดีกุล ประธานองค์กรปกป้องพระพุทธศาสนาเพื่อสันติภาพ (อปพส.) เดินทางหอบหลักฐานร้องเอาผิดกับพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสไผ่ล้อมในฐานะพระวินยาธิการหรือตำรวจพระ ในเขตปกครองคณะสงฆ์จังหวัดนครปฐม และนายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
พระครูปลัดธีระ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ช่อง 3 เมื่อวันที่ 31 ต.ค. ที่ผ่านมา ทำให้ตนต้องมาแจ้งความดำเนินคดีกับผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และหลวงพี่น้ำฝน ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และอาจจะมีการปลอมแปลงเอกสารด้วย เนื่องจากในวันดังกล่าวหลวงพี่น้ำฝนได้นำเอกสารโดยอ้างว่าเป็นเอกสารที่ทางเจ้าอาวาส วัดสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี
ซึ่งเป็นวัดที่ตนเองสังกัด โดยระบุข้อความว่าทางเจ้าอาวาส เชิญตัวตนเองกลับวัดภายใน 7 วัน ซึ่งหลังจากที่ตนเองกลับไปได้มีการไปสอบถามข้อเท็จจริงกับทางเจ้าอาวาส ก็ได้รับคำตอบว่า ในวันที่มีคนนำหนังสือฉบับดังกล่าวไปให้เจ้าอาวาส วัดสามชุกเซ็นนั้น ไม่ได้เป็นการนำหนังสือฉบับจริงไปให้เซ็น แต่นำกระดาษเปล่าโดยไม่ได้ระบุข้อความใดๆ ไปให้เจ้าอาวาสเซ็น
ซึ่งเจ้าอาวาสไม่รู้ จึงได้เซ็นลายเซ็นลงไปในกระดาษเปล่า และเมื่อมาสังเกตดูตัวจดหมายที่ตนเองได้รับ ก็พบว่าไม่ใช่ฉบับจริง แต่เป็นฉบับที่ถ่ายเอกสารมา ยิ่งทำให้ตั้งข้อสังเกตว่า เป็นการปลอมแปลงเอกสารหรือไม่ ซึ่งตนเองสงสัยอยู่ 2 คน คือผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา
และหลวงพี่น้ำฝน ว่าอาจจะเป็นผู้ปลอมแปลงเอกสารฉบับดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องมีการตรวจสอบรายละเอียดเรื่องเอกสารก่อน แต่หากตรวจสอบแล้วพบว่าไม่ได้มีการปลอมแปลง ตนเองก็ไม่ได้กลัวที่จะถูกฟ้องกลับ อีกทั้งตนเองก็สงสัยด้วยว่า ทางผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา และหลวงพี่น้ำฝน จะอยู่ภายใต้การบงการของนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือกัน จอมพลังด้วยหรือไม่
การที่ตนเองไปที่ช่อง 3 เจตนารมณ์คือ เห็นช่อง 3 ชอบทำข่าวพระ แต่ไม่นำเสนอทางออก ตนเองจึงต้องการให้นำเสนออีกด้าน และตนเองขออนุญาตตำรวจและช่อง 3 แล้ว เพื่อขอเข้าไปชุมนุม แล้วทำไมถึงปล่อยให้มีคนของหมอปลา บุกเข้ามาทำร้ายร่างกายตนเองได้ และเรื่องที่กันจอมพลัง เคยบอกว่าลูกน้องของตนเอง ลงไปหาที่ชั้นจอดรถ ตนเองตรวจสอบแล้ว ยืนยันว่าไม่ใช่