หลังจากก่อนหน้านี้ในโหนกระแส "ทนายสายหยุด" และ "ทนายอาคม คงสวัสดิ์" ทนายความดูแลคดีให้ "นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด" หรือ "เดือน"ภรรยาของทนายตั้ม ได้มาเป็นแขกรับเชิญพูดคุยเกี่ยวกับคดีทนายตั้ม ซึ่งก็มีบางช่วงของรายการที่ทนายสายหยุด ได้ให้เหตุผลก่อนจะแจ้งขอหยุดเป็นทนายความให้กับนายษิทรา ตอน 9 โมงเช้าของวันที่ 25 พ.ย.67 ที่ผ่านมาว่า ตนเองเข้าไปคุยกับนายษิทรา โดยบอกเหตุผลตรงๆ ว่าถ้าสู้ไปก็รอดยาก เพราะเล็ก คนขับรถอดีตทหารก็สารภาพแล้วว่าถูกสั่งไปขนเงิน 20 ล้าน ซึ่งถูกแบ่งออกมาจากก้อนหลัก 39 ล้าน "คดีทนายตั้ม" อธิบายให้เห็นภาพจะมีคดีหลักคือเรื่องเงิน 71 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็น 3 กรรม
ทนายสายหยุดย้ำว่าตนยืนยันมาตั้งแต่ต้นว่า 3 กรรมนี้ยังทำให้เหมือนเดิม แต่ผ่านไป 10 กว่าวัน มีเรื่อง 39 ล้านเข้ามาจึงแนะนำให้สารภาพ แต่ทนายตั้มจะสู้หัวชนฝา คือ
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องที่พนักงานสอบสวนอาจจะแจ้งความเพิ่ม เกี่ยวกับเรื่องปลอมเอกสาร เนื่องจากเอกสารสัญญาที่ตนเองถืออยู่ ไม่ตรงกับที่ อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก ม.รังสิต นำเอกสารจากมาดามอ้อยมาเปิดเผยจึงเกรงว่าถ้าตนเอาไปใช้ในการว่าความ จะมีความผิดไปด้วย จึงขอไม่รับทำต่อ
ส่วนกรณีที่ว่า นับจากวันนี้อย่างน้อยอีกนานแค่ไหนที่นายษิทราจะได้ออกมาจากเรือนจำ ? ประเด็นนี้ ทนายสาหยุดชี้แจงโดยออกตัวว่าไม่อยากให้ระบุเป็นตัวเลขแน่ชัดว่าวันไหนเมื่อใด เพราะอันดับแรกต้องดูวันที่อัยการยื่นฟ้องก่อนว่าจะยื่นฟ้องทุกข้อหาที่พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาหรือไม่ ดูความหนัก-เบาของข้อหาว่าหนักลงหรือไม่ ดังนั้นอย่าเพิ่งรีบไปกล่าวดีกว่าว่ากี่ปี เพราะวันที่ตรวจพยานหลักฐานทั้งฝ่ายโจทก์ทั้งอัยการโจทก์จะส่งหลักฐานให้ตรวจ ทนายตั้มเองก็เป็นทนายถ้าเห็นเอกสารเห็นพยานแล้วจะ "สารภาพ" ตอนนั้นก็ยังไม่สาย