ข่าว

heading-ข่าว

เริ่มแล้ว สนามบินสแกนหน้าครั้งเดียวเที่ยวทุกที่ สะดวกกว่าเดิมเยอะ

02 ธ.ค. 2567 | 15:23 น.
เริ่มแล้ว สนามบินสแกนหน้าครั้งเดียวเที่ยวทุกที่ สะดวกกว่าเดิมเยอะ

"สนามบินสแกนหน้า" ตรวจสอบใบหน้าผู้โดยสาร ก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัล สนามบินไทยนำเทคโนโลยีสแกนใบหน้ามาใช้ เพื่อยกระดับประสบการณ์การเดินทางของคุณ ง่ายนิดเดียว สแกนหน้าเข้าได้เลย ไม่ต้องรอนาน

"สนามบินสแกนหน้า" เทคโนโลยีล้ำสมัยมาถึงแล้ว สนามบินไทยพร้อมให้บริการสแกนใบหน้าเพื่อความสะดวกสบายในการเดินทางของคุณ AOT พร้อม เริ่มแล้ว 1 ธ.ค. เดินทางผ่าน 6 สนามบิน สะดวก รวดเร็วยิ่งขึ้น ด้วยระบบไบโอเมตริก ผู้โดยสารในประเทศได้ใช้ก่อน 1 พ.ย. พร้อมอวดตัวเลขผู้โดยสารปีงบ 67 พุ่งกว่า 120 ล้านคน คาดปีงบ 68 ขยับถึง 130 ล้านคน

 

เริ่มแล้ว สแกนหน้าครั้งเดียวเที่ยวทุกที่ สะดวกกว่าเดิมเยอะ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

heading-ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) ประกาศ พร้อมแล้วในการให้บริการระบบพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล หรือ Biometric สำหรับผู้โดยสารภายในประเทศและระหว่างประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2567 เป็นต้นไป

ณ สนามบิน ทั้ง 6 แห่งของ AOT ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบาย รวดเร็ว รวมทั้งจะช่วยลดระยะเวลาในการใช้บริการของแต่ละจุดบริการภายในท่าอากาศยาน ของ AOT เหลือประมาณ 1 นาที จากเดิมประมาณ 3 นาที

 

สนามบินสแกนหน้า 1 ธันวาคม 2567

สำหรับผู้โดยสารที่ต้องการใช้งาน ระบบ Biometric สามารถลงทะเบียนใช้งานเมื่อมาเช็กอินที่สนามบิน ได้ 2 วิธี คือ 

(1) เช็กอินที่เคาน์เตอร์เช็กอินของสายการบิน ผู้โดยสารแจ้งเจ้าหน้าที่สายการบินให้ลงทะเบียนใบหน้าในระบบ Biometric ผ่านเครื่องตรวจบัตรโดยสาร โดยระบบจะดำเนินการบันทึกข้อมูลใบหน้าและข้อมูลเอกสารการเดินทางของผู้โดยสาร

(2) เช็กอินที่เครื่องเช็กอินด้วยตนเองอัตโนมัติ (เครื่อง CUSS: Common Use Self Service) ผู้โดยสารสามาถทำการกดปุ่มเลือกสายการบินที่เดินทาง ตามด้วยการกดเลือกให้ความยินยอมลงทะเบียนใบหน้าในระบบ Biometric (Consent Notice) และดำเนินการเช็กอินผ่านระบบจนได้รับบัตรโดยสารขึ้นเครื่อง (Boarding Pass) จากนั้นทำการสแกน barcode ในบัตรโดยสารขึ้นเครื่อง (Boarding Pass) แล้วเสียบหนังสือเดินทาง (Passport) หรือบัตรประชาชน และสแกนใบหน้าเป็นขั้นตอนสุดท้าย ถือเป็นการเสร็จสิ้นการลงทะเบียน ซึ่งระบบจะดำเนินการบันทึกข้อมูลใบหน้าและข้อมูลเอกสารการเดินทางของผู้โดยสาร

และหากผู้โดยสารมีความประสงค์จะโหลดกระเป๋าสัมภาระ สามารถทำผ่านเครื่องรับกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัติ (เครื่อง CUBD: Common Use Bag Drop) ตลอดจนผ่านจุดตรวจค้น และขั้นตอนขึ้นเครื่อง โดยผู้โดยสารไม่ต้องแสดง Passport และ Boarding Pass อีกต่อไป ทั้งนี้ ข้อมูลของผู้โดยสารที่ถูกบันทึกไว้จะถูกลบทิ้งภายใน 48 ชั่วโมงนับจากเริ่มลงทะเบียน ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล และข้อกำหนดของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Protection Act: PDPA) ของประเทศไทย

AOT มุ่งมั่นพัฒนาสนามบินในความรับผิดชอบให้มีความพร้อมให้บริการด้วยมาตรฐานเหนือระดับ เพื่อส่งมอบประสบการณ์การเดินทางที่น่าประทับใจ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมการบิน การท่องเที่ยวของประเทศไทยให้เติบโต ตลอดจนเป็นการสร้างรายได้และกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศได้อย่างยั่งยืนต่อไป

 

AOT เปิดใช้ระบบ Biometric สแกนหน้า 6 สนามบินไทย

 

 

ขอบคุณ : ที่มาจาก AOT Official 

ข่าวล่าสุด

heading-ข่าวล่าสุด

ข่าวเด่น

"มดดำ" เปิดปม "โตโน่" ก่อนอุทานเรื่องสาวๆ ชี้เกือบโป๊ะแตกหลายคน

"มดดำ" เปิดปม "โตโน่" ก่อนอุทานเรื่องสาวๆ ชี้เกือบโป๊ะแตกหลายคน

สิ้น "ต๋อง นิวัฒน์" ปิดตำนานยอดแข้งไทย เจ้าของฉายา สิงห์สนามศุภฯ

สิ้น "ต๋อง นิวัฒน์" ปิดตำนานยอดแข้งไทย เจ้าของฉายา สิงห์สนามศุภฯ

นายกเบี้ยว รับ "พีช" อารมณ์ร้อน ไม่เคยมีประสบการณ์เกิดอุบัติเหตุ

นายกเบี้ยว รับ "พีช" อารมณ์ร้อน ไม่เคยมีประสบการณ์เกิดอุบัติเหตุ

ฮือฮา นักบินหญิงส่งหัวใจดวงที่ 123 ยิ่งทึ่งพอรู้ว่าเป็นใคร

ฮือฮา นักบินหญิงส่งหัวใจดวงที่ 123 ยิ่งทึ่งพอรู้ว่าเป็นใคร

อาลัยสิ้น "พ.อ.พิฆราช สุริยะ" หนึ่งในทีมค้นหาตึกสตง.ถล่ม

อาลัยสิ้น "พ.อ.พิฆราช สุริยะ" หนึ่งในทีมค้นหาตึกสตง.ถล่ม