รวบหนุ่ม 21 อ้างเป็นเจ้าของสถาบันการเงินชื่อดัง พบประวัติฉ้อโกงเพียบ

04 ธันวาคม 2567

ตำรวจไซเบอร์ รวบหนุ่ม 21 ปี อ้างเป็นเจ้าของสถาบันการเงินชื่อดัง พบประวัติฉ้อโกงเพียบ เสียหายกว่า 1.1 ล้านบาท

สืบเนื่องจากผู้เสียหายได้มีไลน์ชื่อ “ศิรินัน” แจ้งแอดเข้ามาเป็นเพื่อน จึงกดเข้าไปดูและทักทาย เมื่อเริ่มคุยสนิทกัน จึงมีการชักชวนให้ลงทุนกับบริษัทประกอบธุรกิจด้านการเงินชื่อดัง ซึ่งคนร้ายอ้างว่าเป็นบริษัทของตน โดยเริ่มชักชวนผู้เสียหายให้ลงทุน 1,000 บาท ได้กำไร 30,000 บาท

รวบหนุ่ม 21 อ้างเป็นเจ้าของสถาบันการเงินชื่อดัง พบประวัติฉ้อโกงเพียบ

จึงทำให้หลงเชื่อและลงทุนเพิ่มมากขึ้น เมื่อได้กำไรแล้วอ้างว่าต้องเสียภาษี และค่าบริการต่างๆ ผู้เสียหายรู้สึกผิดสังเกต จึงไปปรึกษาเพื่อน และทราบว่าถูกหลอกให้ลงทุน รวมทั้งหมดที่ผู้เสียหายโอนเงินไป จำนวน 18 ครั้ง ไปยังบัญชีม้าทั้งหมด 4 บัญชี มูลค่าความเสียหายรวมจำนวน 1,107,505 บาท

รวบหนุ่ม 21 อ้างเป็นเจ้าของสถาบันการเงินชื่อดัง พบประวัติฉ้อโกงเพียบ

พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สพฐ.ตร.รรท.ผบช.สอท. จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5 และ พ.ต.อ.กฤษดา มานะวงศ์สกุล ผกก.1 บก.สอท.5 ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ นำโดย พ.ต.ต.สุธี บุดีคำ, ร.ต.อ.ขวัญชัย ปานคง สืบสวนติดตามจนสามารถจับผู้ร่วมกระทำผิดในคดีนี้ เพื่อลดภัยอาชญากรรมออนไลน์ สร้างความอุ่นใจให้ประชาชน

รวบหนุ่ม 21 อ้างเป็นเจ้าของสถาบันการเงินชื่อดัง พบประวัติฉ้อโกงเพียบ

กระทั่งวันที่ 2 ธ.ค.67 ชุดสืบสวนได้ติดตามผู้ต้องหาในคดีนี้ และสืบสวนทราบว่านายอรรถพรฯ อายุ 21 ปี กลับมาพักอาศัยอยู่ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ พบบุคคลมีลักษณะตำหนิรูปพรรณตรงตามหมายจับ จึงวางแผนจับกุม และสามารถจับกุมได้ บริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ที่ 2 ต.คลองห้า

รวบหนุ่ม 21 อ้างเป็นเจ้าของสถาบันการเงินชื่อดัง พบประวัติฉ้อโกงเพียบ

อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 3805/2567 ลงวันที่ 15 สิงหาคม 2567 ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น,นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน”

รวบหนุ่ม 21 อ้างเป็นเจ้าของสถาบันการเงินชื่อดัง พบประวัติฉ้อโกงเพียบ

จากการสอบถามนายอรรถพรฯ ให้การปฏิเสธ แต่ขอให้การว่า เมื่อประมาณกลางปี 2565 ได้เปิดบัญชีธนาคารให้แฟนเก่านำไปใช้ ก่อนถูกนำไปใช้ก่อเหตุในคดีนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลหมายจับ พบผู้ต้องหามีหมายจับติดตัวรวม 3 หมายจับ ล้วนแล้วแต่เป็นคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่นฯ มีผู้เสียหายหลายราย พบความเชื่อมโยง 38 เคสไอดี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับ นำส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.สอท.5 เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป