ป้ามหาภัยโผล่อีก เพื่อนบ้านสุดเอือม แฉพฤติกรรมแสบ ป่วนไม่เลิก โดยเมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 67 ที่สำนักงานเพจสายไหมต้องรอด ซอยสายไหม 38 นายณัฐพล (สงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี นักบิน และนางศรันญ์ภัทร (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี พร้อมเพื่อนบ้านอีกหลายราย เดินทางเข้าร้องทุกข์กับนายนิรันดร์ เกแง้ว ทีมงานเพจสายไหมต้องรอด หลังถูก น.ส.เอ ป้ามหาภัย อายุ 64 ปี สร้างความเดือดร้อนแก่เพื่อนบ้าน มานานหลายปี
โดยนายณัฐพล เปิดเผยว่า ตนได้ซื้อบ้านเก่ามารีโนเวทย่านดินแดง โดยตนได้อาศัยอยู่บ้านหลังนี้มา 3 ปี โดยก่อนเริ่มต่อเติมบ้าน ตนได้ยกกระเช้าผลไม้ไปหาเพื่อนบ้านคือ น.ส.เอ (ปิยอนันต์ ปริฉัตต์กุล) อายุ 64 ปี ที่อยู่อาศัยในบ้านเพียงลำพัง เพื่อผูกมิตร และขอโทษที่การรีโนเวทต่อเติมบ้านตนอาจจะมีเสียงดังและฝุ่นเกิดขึ้น ซึ่งตอนนั้นคุณป้าก็ดูปกติดี และยังให้ตนทำสำเนาบัตรประชาชนเพื่อเซ็นเอกสารรับรอง พร้อมเขียนไว้ว่าจะรับผิดชอบหากเกิดความเสียหายกับบ้านของคุณป้า
แต่หลังจากนั้นคุณป้าก็เริ่มมีการโวยวาย มีการโยนข้าวของจานชามต่างๆเข้าไปในบ้านของตน จนทำให้ตนต้องสร้างระแนงไม้กั้นระหว่างบ้านขึ้นมา แต่คุณป้าก็ทุบระแนงที่ตนสร้างจนพัง อีกทั้งยังมีการนำขยะหรือสิ่งปฏิกูลนำมาสดเทหน้าบ้าน จนทำให้เกิดความสกปรก รวมถึงมีการเขียนข้อความบนกำแพงว่าบ้านตนสร้างผิดแบบ ต้องรื้อทิ้ง และอีกข้อความเกี่ยวกับสงครามสหรัฐอเมริกา
นอกจากนี้ คุณป้าคนดังกล่าวยังเคยแจ้งตำรวจว่าบ้านตนมีการฆ่าหมกศพกันภายในบ้าน ทำให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ 6 นาย อยู่ในเครื่องแบบ 2 นาย นอกเครื่องแบบ 4 นาย เมื่อมาถึงตำรวจได้มากดกริ่ง ตัวเองซึ่งนอนหลับอยู่จึงตื่นมาเปิดประตูไปพูดคุยกับตำรวจเพราะว่าได้ติดตู้แดงไว้ที่หน้าบ้านและตำรวจก็ทราบว่าเพื่อนบ้านเป็นอย่างไรจึงรู้ว่ามีคนแจ้งความเท็จ อีกทั้งเพื่อนบ้านที่อยู่ระแวกเดียวกันยังมีการเล่าว่าคุณป้าคนดังกล่าวชอบเดินข้างทางตามถนนในซอยและจะพก มีด กรรไกร ติดตัวตลอด
ด้านนางศรันญ์ภัทร กล่าวว่า ตนอยู่มา 20 กว่าปีแล้ว ก่อนหน้านี้ประมาณ 3-4 ปีที่แล้ว มีคุณแม่ของหญิงคนดังกล่าวนี้ให้ข้อมูลว่า หญิงคนนี้ไม่สบายต้องทานยาตลอด ระหว่างทานยาไม่มีอาการใด ๆ จนกระทั่งคุณแม่ของหญิงคนดังกล่าวเสียชีวิต เป็นจังหวะที่นายณัฐพล ย้ายมาอยู่พอดี อาการหญิงคนดังกล่าวก็หนักขึ้นเรื่อยๆ เกิดเสียงด่าบ่นออกมาจากบ้านหญิงคนนี้ทั้งวัน นอกจากนี้หญิงดังกล่าว ยังมีพี่สาวที่พยายามพาไปรักษา แต่หญิงคนดังกล่าวไม่ยอมออกจากบ้าน จึงไม่สามารถทำอะไรได้
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กลุ่มเพื่อนบ้าน กำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อจะยื่นเรื่องไปที่สำนักงานเขตพญาไท ให้เข้ามาตรวจสอบที่บ้านของหญิงดังกล่าวต่อไป เพราะตอนนี้สิ่งที่กังวลที่สุดคือเรื่องที่บ้านหญิงคนดังกล่าวถูกตัดไฟฟ้า แล้วจุดเทียนในตอนกลางคืน กลัวไฟไหม้ลุกลาม มายังบ้านเพื่อนบ้าน
ขณะที่ นายนิรันดร์ กล่าวว่า หลังจากนี้ตนจะประสานผกก.สน.ดินแดงให้ช่วยลงไปดูพื้นที่ เพราะผู้ก่อเหตุพกพาอาวุธติดตัวอยู่ตลอดเวลาไม่รู้ว่าจะก่อเหตุกับใครเมื่อไหร่ หลังจากนี้จะทำหนังสือถึงสำนักงานเขตในเรื่องเกี่ยวกับพ.ร.บ.ความสะอาด ส่วนการรักษาพยาบาลจะประสานไปยังนายธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสธ. ให้เข้ามาช่วยดูในเรื่องหาจิตแพทย์และหาแนวทางการรักษาต่อไป