เปิด 10 คุณสมบัติ ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 68 ได้เงินช่วยเหลือกี่บาท

07 มกราคม 2568

เปิด 10 คุณสมบัติ การลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรคนจนรอบใหม่ ปี 2568 ใครได้บ้าง ได้เงินช่วยเหลือกี่บาท

คืบหน้าลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรคนจนรอบใหม่ ปี 2568 ทางด้าน นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ระบุเมื่อเดือน พ.ย. 67 ที่มีการประชุมคณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม ซึ่งจะมีการกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขต่างๆ ยืนยันว่ากระบวนการดำเนินงานทั้งหมดจะต้องเสร็จเรียบร้อย ก่อนเปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ ประมาณสิ้นเดือนมีนาคม 2568

เปิด 10 คุณสมบัติ ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 68 ได้เงินช่วยเหลือกี่บาท

สำหรับเกณฑ์การลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรคนจน คาดว่าจะมีผู้ลงทะเบียนกว่า 25 ล้านคน ซึ่งแบ่งเป็น 2 กลุ่ม

1. กลุ่มเดิมคือผู้ที่มีสิทธิในปัจจุบันที่ผ่านกระบวนการแล้ว 14.5 ล้านคน จะไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ รัฐบาลจะนำรายชื่อไปคัดกรองสิทธิอัตโนมัติ

2. กลุ่มใหม่ที่ประมาณการไว้ที่ 10 ล้านคน คือกลุ่มที่ยังไม่เคยได้รับสิทธิมาก่อน ซึ่งมาจากประชาชนที่อายุครบ 18 ปี เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา กลุ่มที่เคยลงทะเบียนแต่ไม่ได้รับสิทธิ 4 - 5 ล้านคน และกลุ่มอื่นๆที่คาดการณ์ไว้ก็มีอีกหลายๆล้านคนที่คงจะมาลงทะเบียน ซึ่งไม่ได้หมายความว่าทั้งหมดจะได้รับสิทธิก็ต้องมาตรวจสอบตามกลไกต่อไป 

ในส่วนของกลุ่มผู้ที่ยังไม่เคยได้รับสิทธิมาก่อน จะต้องมีการลงทะเบียน โดยจะเริ่มได้ก่อนสิ้นเดือน มี.ค. 2568 โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ศึกษาการลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" และขั้นตอนการลงทะเบียนที่อำนวยความสะดวกให้กับประชาชน

นอกจากนี้ได้สั่งการให้ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ดำเนินการตรวจสอบทบทวนหลักเกณฑ์ทั้งเก่าและใหม่ เพื่อให้ครอบคลุมกับการดำเนินงาน ป้องกันไม่ให้คนจนไม่จริงเข้ามาสวมสิทธิ ซึ่งในด้านเกณฑ์รายได้ครัวเรือนยังมีอยู่เหมือนเดิม ขณะที่เกณฑ์เรื่องการถือครองที่ดิน จะทำให้สามารถตรวจสอบใช้ได้จริง พร้อมจะดูรายละเอียดในเรื่องสินทรัพย์ การถือครองสลาก และพันธบัตร

คุณสมบัติผู้มีสิทธิลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568

สำหรับเกณฑ์คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ เบื้องต้นคาดว่าจะยังไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิม ซึ่งต้องมีคุณสมบัติดังนี้

  • ลงทะเบียนรายบุคคล และตรวจสอบคุณสมบัติเป็นรายบุคคลและครอบครัว
  • ต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทย อายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
  • มีรายได้คนละไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี หรือภายในครอบครัว มีรายได้เฉลี่ยไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปี
  • ทรัพย์สินทางการเงิน ได้แก่ เงินฝาก พันธบัตร ตราสารหนี้ต่างๆ ต้องไม่เกิน 100,000 บาทต่อคน หรือในระดับครอบครัวไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปีเช่นเดียวกัน
  • ต้องไม่มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ หรือที่ดิน เกินจากเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังกำหนด
  • ไม่มีบัตรเครดิต
  • ไม่มีวงเงินกู้บ้านตั้งแต่ 1.5 ล้านบาทขึ้นไป
  • ไม่มีวงเงินกู้ซื้อรถตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป
  • ไม่เป็นภิกษุ สามเณร ผู้ต้องขัง บุคคลที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ ข้าราชการ พนักงานราชการ ผู้รับบำเหน็จรายเดือน ผู้รับบำนาญ ข้าราชการการเมือง รวมถึง สส. และ สว.
  • กรณีไม่มีครอบครัว ห้องชุดต้องไม่เกิน 35 ตร.ม. และที่ดินที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตร ไม่เกิน 1 ไร่ และใช้ในการเกษตร ไม่เกิน 10 ไร่ มีบ้านพร้อมที่ดิน บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ ตึกแถว ไม่เกิน 25 ตร.ว. และรวมกันหมดแล้ว พื้นที่การเกษตรไม่เกิน 10 ไร่

หมายเหตุ : อ้างอิงข้อมูลจากการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 (5 กันยายน- 31 ตุลาคม 2565) 

 

รัฐจ่ายเงินช่วยเหลือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐกี่บาท

  • วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค 300 บาทต่อคนต่อเดือน
  • วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาท ต่อคนต่อเดือน
  • วงเงินส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม 80 บาท ต่อคนต่อ 3 เดือน
  • มาตรการบรรเทาภาระค่าน้ำประปา 100 บาท ต่อครัวเรือนต่อเดือน
  • มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า 315 บาท ต่อครัวเรือนต่อเดือน
  • รวมเป็นเงิน 1,545 บาท

นอกจากนี้ ยังจะมีการทบทวนสิทธิและสวัสดิการของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้เหมาะสม เช่น วงเงินการซื้อของจากร้านธงฟ้า ค่าก๊าซ ซึ่งที่ผ่านมามีผู้ใช้สิทธิเพียง 40% และยังรวมถึงค่าเดินทาง เนื่องจากในบางหลักเกณฑ์ประชาชนไม่ได้เข้าไปใช้สิทธิตามที่รัฐบาลวางไว้ จึงทำให้งบประมาณบางส่วนถูกใช้ไปโดยไม่จำเป็น จึงต้องศึกษาใหม่ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมให้ไปศึกษาเรื่องการรีสกิลอัพสกิลด้วย

ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง ได้กำชับคณะอนุกรรมการด้านนโยบายของ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในการไปพิจารณาหลักเกณฑ์เหล่านี้เป็นเวลา 1 เดือน เพื่อให้ทันต่อการเปิดลงทะเบียนโครงการรอบใหม่วันที่ 31 มี.ค. 2568