แฉวีรกรรม "ผู้กองหญิงเก๊" หรือ นางสาวฟาฏินะห์ นันทอริยะกุล แต่งตัวเลียนแบบเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยศร้อยตำรวจเอก และเรียกตัวเองว่า ผู้กองหมวย ซึ่งพบว่าเป็นตำรวจปลอมและได้ทำการปลอมแปลงเอกสารราชการ รวมถึงแอบอ้างนามสกุลของอดีต ผบ.ทบ. เพื่อหลอกลวงเหยื่อให้หลงเชื่อ
โดยก่อนหน้านี้โลกออนไลน์แฉพฤติกรรม นางสาวฟาฏินะห์ นันทอริยะกุล ที่ได้แต่งตัวเลียนแบบเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยศร้อยตำรวจเอก และเรียกตัวเองว่า ผู้กองหมวย
เบื้องต้นได้มีการปลอมแปลงเอกสารโรงพยาบาล ปลอมแปลงเอกสารหน่วยงานตำรวจ และใช้นามสกุล บุญยรัตกลิน ซึ่งเป็นนามสกุลของ อดีต ผบ.ทบ. และแอบเข้าไปในสถานที่ราชการเพื่อถ่ายเซลฟี่ตัวเองกับโต๊ะทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อนำมาแอบอ้างหลอกเหยื่อ
ล่าสุดวันที่ 7 มกราคม 2568 มีรายงานว่าตำรวจออกหมายจับผู้กองหญิงเก๊ รายนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยผู้ก่อเหตุเป็นหญิง อายุ 21 ปี แต่งตัวเลียนแบบตำรวจยศร้อยตำรวจเอกหญิง และได้หลอกลวงเงินจากแฟนหนุ่มไป 4 แสนบาท นอกจากนี้ยังปลอมแปลงเอกสารโรงพยาบาลเอกชนและเอกสารของหน่วยงานตำรวจสนับสนุนภารกิจถวายความปลอดภัย ภ.จ.ปัตตานี เมื่อปี พ.ศ. 2566 ใช้นามสกุล บุญยรัตกลิน ในตำแหน่ง รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนราธิวาส ซึ่งเป็นนามสกุลของ อดีต ผบ.ทบ.
ล่าสุด พ.ต.อ.ปรัชญา ไบเตะ ผกก.สภ.เมืองนราธิวาส เผยว่า แฟนหนุ่มซึ่งเป็นผู้เสียหายรับว่ารู้จักผู้ก่อเหตุคนดังกล่าว ผ่านแอปพิเคชันหาคู่ เมื่อช่วงปลายปี 2566
มีผู้เสียหายมาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน ถูกผู้หญิงอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คบหาเป็นแฟนกันแล้วท้อง เพื่อขอเงินที่จะไปฝากครรภ์ ซึ่งหลังจากร้อยเวรได้รับเรื่องแล้ว ก็มีการออกหมายเรียกเมื่อช่วงวันที่ 30 มกราคม 2567 ครั้งที่ 1
หลังจากนั้นวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 ออกหมายเรียกครั้งที่ 2 จนกระทั่งครั้งที่ 3 ออกหมายเรียกอีกครั้งวันที่ 4 เมษายน 2567
ในระหว่างนั้นทางผู้เสียหายพยายามให้ทางผู้หญิงมาไกล่เกลี่ย ซึ่งทางผู้หญิงรับว่าหลอกเงินไปจริง ซึ่งยังติดต่อได้อยู่ แต่ตอนหลังทางผู้เสียหายแจ้งว่าไม่สามารถติดต่อผู้หญิงได้แล้ว ทางพนักงานสอบสวนก็เลยได้รับเลขคดีช่วงวันที่ 19 มิถุนายน 2567 ในการรวบรวมพยานหลักฐานและออกหมายจับเมื่อ 30 กรกฏาคม 2567 ที่ผ่านมา ทางผู้เสียหายเองยืนยันจะดำเนินคดีจนถึงที่สุด
พ.ต.อ.ปรัชญา ผกก.สภ.เมืองนราธิวาส กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางผู้เสียหายแจ้งว่าได้โอนเงินให้กับผู้หญิงดังกล่าวหลายครั้งมาก รวมแล้วประมาณ 400,000 บาท มากสุด 40,000 บาท และหลักร้อยหลักพันหลายๆ ครั้ง
เนื่องจากฝ่ายหญิงบอกว่าเขาท้องต้องมีค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลและฝากครรภ์ ซึ่งตอนหลังผู้ชายตรวจสอบที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งที่นราธิวาสแล้วพบว่าผู้หญิงไม่ได้ท้องจริง เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งดำเนินคดีใน 3 ข้อหา คือ
1.ฉ้อโกง
2.ไม่มีสิทธิ์สวมเครื่องแบบ
และ 3.ปลอมแปลงเอกสารทางราชการ