ไม่อยากเป็นมะเร็งอย่าทำ 5 อย่างนี้ หมอเจด เตือนเอง หลายคนทำจนเป็นนิสัย
"หมอเจด" นายแพทย์ เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ เผย ไม่อยากเป็นมะเร็งอย่าทำ 5 อย่างนี้ บางทีเราก็เผลอทำอะไรบางอย่างในชีวิตประจำวันจนเพิ่มความเสี่ยงแบบไม่รู้ตัว
"หมอเจด" นายแพทย์ เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เตือน ไม่อยากเป็นมะเร็งอย่าทำ 5 อย่างนี้ ! ผ่านเฟซบุ๊ก หมอเจด ระบุใจความว่า
คำว่า “มะเร็ง “ แค่ได้ยินชื่อแล้วนะ แต่บางทีเราก็เผลอทำอะไรบางอย่างในชีวิตประจำวันจนเพิ่มความเสี่ยงแบบไม่รู้ตัว มันไม่ได้แปลว่าทำแล้วจะเป็นมะเร็งทันทีนะ แต่ถ้าทำต่อไปเรื่อย ๆ
โอกาสเสี่ยงมันก็เพิ่มแบบไม่รู้ตัวนี่แหละ วัน่อนผมได้เห็นโพสต์ ที่มีคนมาแชร์ “แชร์พฤติกรรมการใช้ชีวิตก่อนจะเป็นมะเร็ง“ ผมเลยรวบรวมมาให้ดูนะว่า 5 พฤติกรรมเสี่ยงที่เราควรหยุดมีอะไรบ้าง ลองเช็กตัวเองกันดูเลย!
1. กินอาหารแปรรูป บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเยอะเกิน
เธอรู้มั้ยว่าอาหารแปรรูปพวกไส้กรอก แฮม ลูกชิ้น หรือแม้แต่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่เราชอบกินตอนดึก ๆ มันมีสารกันเสียที่ชื่อ ไนไตรต์ กับ ไนเตรต สารพวกนี้พอเข้าสู่ร่างกายเราอาจเปลี่ยนเป็นสารก่อมะเร็งชื่อ ไนโตรซามีน ได้ ซึ่งเกี่ยวโยงกับมะเร็งลำไส้ใหญ่เลยนะ!
แถมอาหารพวกนี้โซเดียมก็สูงเว่อร์ กินเยอะ ๆ นอกจากเสี่ยงมะเร็งแล้วยังเสี่ยงไตพังอีกต่างหาก ลองเปลี่ยนมากินอาหารที่ปรุงสดใหม่บ้าง เช่น ข้าวราดแกง ผัก หรือเนื้อสัตว์ที่ไม่ได้ผ่านการแปรรูป จะได้สารอาหารเต็ม ๆ และสุขภาพจะดีขึ้นแน่นอน
แนะนำเพิ่มอีกนิดว่า
• ถ้าชอบกินก็ลดจำนวนครั้งต่อสัปดาห์ลง ไม่ต้องงดเลยก็ได้
• เพิ่มผัก ผลไม้สดเข้าไปในมื้ออาหารเยอะ ๆ ช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งได้นะ
2. นอนน้อย ดึกดื่นไม่หลับไม่นอน
การนอนสำคัญกว่าที่คิดมากนะ ตอนเรานอน ร่างกายจะซ่อมแซมตัวเองและผลิตฮอร์โมนที่ชื่อ เมลาโทนิน ซึ่งช่วยต้านอนุมูลอิสระและลดโอกาสเสี่ยงมะเร็งด้วย ถ้าเธอนอนไม่พอ เช่น นอนน้อยกว่า 6 ชั่วโมงต่อคืน ระบบภูมิคุ้มกันจะอ่อนแอไปด้วย เซลล์มะเร็งที่ร่างกายเราคุมอยู่ก็อาจหลุดรอดไปได้
ใครที่ชอบดูซีรีส์ยาว ๆ หรือเล่นโทรศัพท์ก่อนนอนจนถึงตีสองตีสามทุกคืน ลองปรับเวลานอนใหม่ เพราะการนอนหลับดี ๆ จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นแบบรู้สึกได้เลย
• จัดเวลานอนให้ได้อย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อวัน
• ถ้าหลับยาก ลองสร้างบรรยากาศห้องนอนให้น่านอน เช่น ปิดไฟ ลดเสียงรบกวน หรือใช้กลิ่นอโรมาช่วย
3. เครียดหนักมาก
เชื่อว่าใครๆก็ไม่อยากเครียดนะเพราะไม่เคยทำอะไรดีให้เราเลย นอกจากทำให้สุขภาพจิตแย่แล้วยังส่งผลต่อร่างกายด้วย ความเครียดเรื้อรังทำให้ฮอร์โมน คอร์ติซอล หลั่งเยอะเกิน ซึ่งส่งผลให้ภูมิคุ้มกันลดลงและเกิดการอักเสบในร่างกายได้บ่อย พออักเสบเรื้อรังนาน ๆ เซลล์บางส่วนอาจกลายพันธุ์จนเป็นมะเร็งได้
ที่แย่ไปกว่านั้นคือ ตอนเครียดเราอาจหันไปพึ่งพฤติกรรมเสี่ยงอื่น ๆ เช่น กินขนมหวานเยอะ ๆ ดื่มแอลกอฮอล์ หรือสูบบุหรี่ ซึ่งมันยิ่งเพิ่มโอกาสเสี่ยงอีก
แต่จะทำยังไงให้ผ่อนคลายและเครียดน้อยลง ลองทำตามนี้นะ
• ฝึกผ่อนคลายตัวเอง เช่น หายใจเข้าลึก ๆ หรือทำสมาธิสัก 5-10 นาที
• ออกกำลังกายช่วยลดความเครียดได้ดีมากนะ แถมสุขภาพดีด้วย
• ลองพูดคุยหรือระบายกับคนที่ไว้ใจ ถ้าเครียดมาก ลองหาจิตแพทย์ ดูนะครับอันนี้ก็จะช่วยได้
4.ดื่มแอลกอฮอล์หนัก
หลายคนจะชอบคิดกินนิดเดียวไม่เป็นไรหรอก กินวันละนิดดีกับสุขภาพ แต่จริงๆแล้วการดื่มแอลกอฮอล์บ่อย ๆ ส่งผลร้ายต่อสุขภาพมากกว่าที่คิด แอลกอฮอล์สามารถทำให้เซลล์เยื่อบุในร่างกายระคายเคือง โดยเฉพาะที่หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร และตับ ซึ่งอาจนำไปสู่มะเร็งในอวัยวะเหล่านี้ได้ นอกจากนี้ การดื่มแอลกอฮอล์ยังทำให้ร่างกายอ่อนแอ และส่งผลเสียต่อระบบภูมิคุ้มกันอีกด้วย
แนะนำว่า
• หากคุณยังดื่มอยู่ ลองลดปริมาณและความถี่ เช่น เปลี่ยนจากดื่มทุกวันเป็นเฉพาะโอกาสพิเศษ
• หากเลิกไม่ได้ทันที ลองค่อย ๆ ลดปริมาณและขอคำปรึกษาจากแพทย์นะครับ
5.สูบบุหรี่หนัก
บุหรี่ใครๆก็รู้ว่าไม่ดีต่อสุขภาพ แต่หลายคนก็อดใจไม่ไหวนะ อยากเตือนนิดนึงนะว่าบุหรี่มีสารพิษกว่า 60 ชนิด ที่ทำลายเซลล์และดีเอ็นเอของร่างกาย ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของมะเร็งปอด ช่องปาก คอหอย และมะเร็งอีกหลายชนิด การสูบบุหรี่ยังทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตและระบบทางเดินหายใจเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
ที่น่ากลัวคือ ถ้าคุณสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์พร้อมกัน ความเสี่ยงยิ่งเพิ่มขึ้น เพราะแอลกอฮอล์ช่วยเร่งการดูดซึมสารพิษจากบุหรี่เข้าสู่ร่างกาย
เพราะฉะนั้นควรทำตามนี้นะ
• ถ้าคุณสูบบุหรี่อยู่ ควรเริ่มวางแผนเลิกอย่างจริงจัง เช่น ใช้ยาเลิกบุหรี่ หรือขอคำปรึกษาจาหมอ
• ลองหากิจกรรมอื่นทำดูครับ จะช่วยเบี่ยงเบนความสนใจ เช่น ออกกำลังกาย หรือทำงานอดิเรก
• การเลิกบุหรี่อาจยากในช่วงแรก แต่ถ้าอดทนได้สุขภาพดีในระยะยาวแน่นอนครับ
มะเร็งเป็นเรื่งที่น่ากลัวจริงครับ แต่เราป้องกันได้ ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตามที่ผมบอกทีละนิด เริ่มจากสิ่งง่าย ๆ เช่น ดื่มน้ำให้พอ นอนให้พอ กินของดี ๆ ลดความเครียด และเลิกพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำร้ายตัวเอง สุขภาพดีไม่ได้มาจากโชคช่วย แต่มาจากการดูแลตัวเองล้วน ๆ