เผยแล้ว ซากปลาปริศนาโผล่เมืองคอน คืออะไร หลังชาวบ้านตกใจคิดว่าเอเลี่ยน
เผยแล้วตัวอะไร ซากปลายักษ์ปริศนาขนาดขนาดใหญ่ โผล่เมืองคอน คือตัวอะไร หลังชาวบ้านแตกตื่นตกใจคิดว่าเอเลี่ยนเกยตื้น
ทำเอาชาวบ้านแตกตื่นอย่างมาก จากกรณีเพจเฟ๊สบุ๊ค "นครอาสาศูนย์ประสานงานจิตอาสา แจ้งเตือนภัยพิบัติ" ได้ออกมาโพสต์ภาพของซากปลายักษ์ปริศนา พร้อมกข้อความว่า "19/01/68 ชาวบ้านพื้นที่บ้านปากพญา อ.เมืองนคร จ.นครศรีธรรมราช แจ้งผ่านนครอาสา พบซากปลาขนาดใหญ่อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบ" ชาวบ้านต่างตกใจคิดว่าเป็นเอเลี่ยน
ชาวเน็ตแห่สงสัยว่าซากปลาปริศนาขนาดใหญ่คืออะไรกันแน่ โดยมีชาวเน็ตรายหนึ่งได้บอกว่าจะช่วยประสานไปยังหน่วยงานในพื้นที่ และหลายคนสันนิษฐานว่าน่าจะเป็น "ปลาวาฬ" จากโครงสร้างฟันที่ซี่ใหญ่มาก ๆ เนื่องจากช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีคลื่นแรงมาก อาจเป็นไปได้ว่าน้ำขึ้น กระแสน้ำจึงพัดซากปลาชนิดนี้ขึ้นมา
ล่าสุดทางเพจ "นครอาสาศูนย์ประสานงานจิตอาสา แจ้งเตือนภัยพิบัติ" ได้ออกมาแชร์ข้อมูลจากเพจเสือหมอบแมวเซา ที่เปิดเผยว่าชาวบ้านเข้าใจว่าซาก“เอเลี่ยน”เกยป่าชายเลนอ่าวปากพญา
ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเล-ศรชลลุยโคลนพิสูจน์แล้ว โดยทีมสัตวแพทย์ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง เข้าเก็บซากสัตว์มีเขี้ยวเรียงแถวหลังสะพัดเป็นเอเลี่ยนเกยป่าชายเลนนครศรีธรรมราช ยันเป็นวาฬหายากในอ่าวไทยเก็บตัวอย่างซากพิสูจน์ ที่นครศรีธรรมราช เมื่อ 20 มกราคม 2568 เครือข่ายช่วยชีวิตสัตว์ทะเลหายากและใกล้สูญพันธุ์
กรมทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลและชายฝั่ง นักวิจัยและสัตวแพทย์ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง ศรชล.นครศรีธรรมราช เดินทางเข้าพิสูจน์ซากสัตว์ในป่าชายเลนเขตอนุรักษ์ริมชายฝั่งอ่าวปากพญา หมู่ 6 ตำบลท่าซัก อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช โดยชาวประมงหากปูในพื้นที่เป็นผู้พบเห็นอยู่ในสภาพเน่าเปื่อยมีขนาดใหญ่มีฟันเขี้ยวขนาดใหญ่เรียงแถว ทำให้เกิดลือสะพัดว่าเป็นเอเลี่ยนมีการส่งต่อจากภาพที่เห็นแนวเขี้ยวยาวมากกว่า 1 ฟุต
โดยเจ้าหน้าที่ต้องใช้เรือออกจากปากร่องน้ำแล้ววกเข้าป่าชายเลน ก่อนต้องเดินเท้าลุยโคลนลึกเกือบ 2 ฟุต ตรงเข้าไปในป่าชายเลนอีก 50 เมตรพบซากสัตว์ตัวนี้
- เมื่อเห็นซากเจ้าหน้าที่ระบุได้ทันทีคือ “วาฬเพชฌฆาตดำ” เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอาศัยอยู่ในทะเลลึก
หลังจากนั้นจึงเข้าเก็บตัวอย่างเพื่อนำไปวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการเช่นกระเพาะอาหาร เนื้อเยื่อจุดสำคัญ และเก็บหัวของวาฬตัวนี้ไปเพื่อศึกษาวิจัย ส่วนซากที่เหลือไม่สามารถฝังได้จากสภาพพื้นที่เป็นโคลนเลน และด้วยอยู่ห่างจากบ้านคนจึงปล่อยให้ย่อยสลายเป็นอาหารสัตว์ประจำถิ่นไปตามธรรมชาติ งานนี้ถึงบางอ้อทันที
ขอบคุณ นครอาสาศูนย์ประสานงานจิตอาสา แจ้งเตือนภัยพิบัติ