เงินดิจิทัลเฟส2 ตรวจสอบสิทธิ เผยสาเหตุชัดอดได้เงิน 10,000 เพราะอะไร
อัปเดตเงินดิจิทัลเฟส2 เผยสาเหตุไม่ได้เงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 2 ตรวจสอบคุณสมบัติไม่ได้รับสิทธิเงินหมื่อน เพราะอะไร
เงินดิจิทัลเฟส 2 เป็นโครงการที่รัฐบาลไทยได้นำมาใช้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้สูงอายุ โดยการแจกเงินให้กับผู้ที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนด ผ่านช่องทางดิจิทัล ล่าสุดวันนี้ (22 ม.ค. 2568) กระทรวงการคลัง จะเปิดให้ผู้สูงอายุตรวจสอบสิทธิเงินหมื่นเฟส 2 ผ่านแอปฯทางรัฐ ก่อนที่จะได้รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 2 โอนเข้าบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก ในวันที่ 27 มกราคม 2568 นี้
วิธีตรวจสอบสิทธิเงินดิจิทัลเฟส 2 ผ่าน แอปฯทางรัฐ
1. เปิดแอปทางรัฐ เข้าสู่ระบบให้เรียบร้อย จากนั้นกดปุ่มตรวจสอบสถานะ
2. ระบบจะขออนุญาตเข้าถึงข้อมูล และขอยืนยันเบอร์โทรศัพท์มือถือ เพื่อใช้ในการยืนยันตัวตน ให้กดปุ่มยืนยันข้อมูล
3. กรอกเบอร์โทรศัพท์และกดปุ่มรับรหัสทาง SMS (OTP)
4. กรอกรหัส OTP และกดปุ่มยืนยันโทรศัพท์มือถือ
5. กดปุ่มอนุญาตให้แอปพลิเคชันเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
6. ระบบจะแสดงผลสถานะในการรับสิทธิ์ตามโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ว่าอยู่ในขั้นตอนใด
หากอยู่ในขั้นตอนที่ 3 คือ ระบบอยู่ระหว่างการตรวจสอบสิทธิ์
หากอยู่ในขั้นตอนที่ 4 คือ ไม่ได้รับสิทธิ์
หากอยู่ในขั้นตอนที่ 5 คือ ได้รับสิทธิ์ตามโครงการเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาท
สำหรับคุณสมบัติผู้มีสิทธิได้รับเงิน 10,000 บาท ต้องมีเงื่อนไขดังนี้
- ผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้น ต้องลงทะเบียนรับเงิน 10,000 บาท ผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐสำเร็จเท่านั้น (สำหรับผู้สูงอายุที่ยังไม่เคยลงทะเบียนใดๆมาก่อน จะยังไม่ได้รับเงิน 10,000 ในเฟส 2 นี้)
ส่วนกรณีเมื่อตรวจสอบรายชื่อแล้วพบว่า "ท่านไม่ผ่านเกณฑ์" เนื่องจากคุณสมบัติที่ไม่เข้าเงื่อนไข ซึ่งกระทรวงการคลังกำหนดไว้ดังนี้
1. มีรายได้เกิน 840,000 บาท/ปี
2. มีเงินฝากทุกบัญชีเกิน 5 แสนบาท ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567
3. เป็นผู้ที่อยู่ระหว่างต้องโทษจำคุกในเรือนจำ
4. เป็นผู้ที่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในมาตรการ/โครงการอื่นๆ ของรัฐ
5. เป็นผู้ฝ่าฝืนเงื่อนไขของมาตรการ/โครงการอื่นๆ ของรัฐ
ในกรณีที่ผู้สูงอายุที่มีสิทธิรับเงินดิจิทัลเฟส 2 หากผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขบัตรประจำตัวประชาชนไม่ทันภายในวันที่ 22 ม.ค. 2568 รัฐบาลไม่สามารถโอนเงิน 10,000 บาท เข้าบัญชีพร้อมเพย์ได้ไม่สำเร็จในครั้งแรก ในวันที่ 27 ม.ค. 2568 แต่จะมีการดำเนินการจ่ายเงินซ้ำ (Retry) ให้แก่กลุ่มเป้าหมายดังกล่าวจำนวน 3 ครั้ง ได้แก่
- รอบจ่ายซ้ำครั้งที่ 1 จ่ายเงิน 28 กุมภาพันธ์ 2568 ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนภายในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568
- รอบจ่ายซ้ำครั้งที่ 2 จ่ายเงิน 28 มีนาคม 2568 ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนภายในวันที่ 25 มีนาคม 2568
- รอบจ่ายซ้ำครั้งที่ 3 จ่ายเงิน 28 เมษายน 2568 ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนภายในวันที่ 23 เมษายน 2568
เมื่อพ้นกำหนดการ Retry ครั้งที่ 3 แล้ว กระทรวงการคลังจะยุติการจ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมาย และถือว่ากลุ่มเป้าหมายไม่ประสงค์รับเงินภายใต้โครงการฯ
ทั้งนี้ แนะนำให้ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 22 มกราคม 2568 เพื่อรอรับการจ่ายเงินในวันที่ 27 มกราคม 2568
ส่วนกรณีผู้สูงอายุมีบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชนอยู่แล้ว ควรตรวจสอบกับธนาคารด้วยว่า บัญชีดังกล่าวยังคงมีสถานะปกติที่สามารถรับเงินโอนได้หรือไม่ เพื่อให้มั่นใจว่าพร้อมรับเงินในวันที่ 27 มกราคม 2568 ซึ่งการผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชน สามารถผูกกับบัญชีเงินฝากของธนาคารใดก็ได้ โดยไม่จำกัดว่าต้องเป็นธนาคารของรัฐ