วิกฤติ PM 2.5 สพฐ.สั่งโรงเรียนพื้นที่สีแดงทั่วประเทศ ปิดเรียนทันที 7 วัน

 เรียกได้ว่าหลายพื้นที่ยังคงวิกฤติสำหรับ ฝุ่นPM 2.5 ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการ ก็ได้มีมาตรการป้องกันแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ขอให้ผู้บริหารสถานศึกษาเฝ้าระวังสุขภาพนักเรียน ครู บุคลากรในสถานศึกษา ลดเวลาหรือหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้ง เน้นย้ำให้ถือปฏิบัติตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง มาตรการป้องกัน แก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 อย่างเคร่งครัด หน่วยงานและสถานศึกษาที่ตั้งอยู่ในพื้นที่คุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์เกินมาตรฐาน มีผลกระทบต่อสุขภาพ (สีแดง) สามารถพิจารณาเปิด-ปิดสถานศึกษาได้ โดยการปรับเปลี่ยนรูปแบบการเรียนการสอนเป็นออนไลน์


 

ล่าสุดวันที่ 23 ม.ค.68  ว่าที่ร้อยตรีธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีคำสั่งให้โรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ในพื้นที่สีแดงทั่วประเทศที่ได้รับผลกระทบจากมลพิษฝุ่น PM 2.5 หยุดเรียนทันที ตั้งแต่วันนี้ (23 มกราคม) เป็นระยะเวลา 7 วัน หรือจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลงโดยให้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการเรียนการสอนเป็นการเรียนออนไลน์ 


 

 โดยโรงเรียนสังกัดสพฐ.ในเขตกรุงเทพฯ ปิดเรียนแล้ว 57 แห่ง แบ่งเป็น สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) กรุงเทพฯ เขต 1 ปิดเรียน 7 แห่ง สพม.กรุงเทพ เขต 2 ปิดเรียนแล้ว 42 แห่ง และ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) ปิดแล้ว 8 แห่ง 

 ซึ่งทางด้าน อว.ขอความร่วมมือ เรียนออนไลน์หนีฝุ่น เจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด WFH  ในขณะที่ น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นในช่วงฤดูกาลนี้ ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและการดำเนินชีวิตตามปกติของประชาชน กระทรวง อว. ในฐานะหน่วยงานภาครัฐ จึงได้มีนโยบายขอความร่วมมือทุกหน่วยงานในกระทรวง ได้แก่

1. สถาบันอุดมศึกษา ที่อยู่ในพื้นที่ที่มี PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน ให้พิจารณาจัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์

2. หน่วยงานอื่นๆ เช่น สถาบันวิจัยและหน่วยงานด้านวิทยาศาสตร์ ให้พิจารณาให้ข้าราชการ พนักงานและเจ้าหน้าที่ มีการทำงานแบบ Work from Home (WFH) ตามความเหมาะสม ตั้งแต่วันนี้ จนถึง วันที่ 31 มกราคม 2568 หรือจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น ซึ่งจะมีการติดตามและประเมินสถานการณ์เป็นระยะๆ อย่างใกล้ชิด

 นอกจากนี้ กระทรวง อว. ยังได้จัดทำแอปพลิเคชั่นในชื่อ "เช็คฝุ่น" ที่พัฒนาโดยสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ จิสด้า ซึ่งเป็นการนำฐานข้อมูลของข้อมูลจากดาวเทียม ข้อมูลภูมิสารสนเทศ และข้อมูลจากสถานีตรวจวัดที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการ PM 2.5 เชิงพื้นที่ มาผสมผสานเชื่อมโยงกัน เพื่อให้ได้ข้อมูลแบบเรียลไทม์ชั่วโมงต่อชั่วโมง เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้งานได้ด้วยตัวเอง

 
 
ซึ่งจะทำให้รับรู้ และเข้าถึงข้อมูลได้รวดเร็วและถูกต้อง สามารถหลีกเลี่ยงและป้องกันอันตรายจากมลภาวะทางอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ พูดได้ว่าไม่ว่าฝุ่นจะอยู่ที่ไหน เทคโนโลยีจากดาวเทียมจะติดตามไปทุกที่ตลอดเวลา และจะทำให้เราจะรู้ได้ด้วยปลายนิ้วสัมผัส โดยสามารถดาวโหลดแอป "เช็คฝุ่น" ได้ทั้ง IOS และ Android เพียงพิมพ์คำว่า “เช็คฝุ่น” 

 จากสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ซึ่งหลายโรงเรียนสังกัด สพฐ. ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร สามารถรับมือกับสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี มีการปรับกิจกรรมการเรียนการสอนเป็นแบบออนไลน์และประกาศหยุดเรียนในช่วงสัปดาห์นี้ จำนวน 57 แห่ง 

เป็นโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากรุงเทพมหานคร (สพป.) จำนวน 8 แห่ง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 1 (สพม.กทม. เขต 1) จำนวน 7 แห่ง และสังกัด สพม.กทม. เขต 2 จำนวน 42 แห่ง จึงขอเน้นย้ำให้ผู้บริหารโรงเรียนทุกแห่งทั่วประเทศ ติดตามระดับคุณภาพอากาศในพื้นที่อย่างใกล้ชิด สร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง ซักซ้อมการปฏิบัติตนที่เหมาะสมกับสถานการณ์ให้แก่นักเรียนและครู สังเกตอาการนักเรียน โดยเฉพาะเด็กที่ป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ และหากสถานการณ์ค่าฝุ่นอยู่ในระดับวิกฤตสามารถปิดเรียนได้ทันที เพื่อสุขภาพของนักเรียนทุกคนเป็นสำคัญ หากมีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์