บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 68 ช่องทางลงทะเบียนบัตรคนจนรอบใหม่ รับเงิน 1545 บ.
เปิดช่องทางลงทะเบียนบัตรคนจนรอบใหม่ ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐปี 2568 "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐปี 68" ใครบ้างได้รับเงินช่วยเหลือ 1,545 บาท
บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 68 ความคืบหน้า บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 ลงทะเบียนบัตรคนจนรอบใหม่ เนื่องจากใกล้จะครบ 2 ปี หลังจากที่เปิดลงทะเบียนไปรอบล่าสุดเมื่อปลายปี 2565 (5 ก.ย.-31 ต.ค. 2565) เนื่องจากผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐบางคน อาจจะมีคุณสมบัติหลุดจากเกณฑ์ไปแล้ว หรือบางคนที่ไม่ได้รับสิทธิในรอบที่แล้ว อาจจะมีคุณสมบัติผ่านในรอบนี้ โดยเมื่อวันที่ 10 ม.ค. 2568 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้เปิดเผยความคืบหน้าล่าสุดว่า
เรื่องนี้ต้องขอเวลาในการศึกษารายละเอียด เนื่องจากเงื่อนไขที่ปรับปรุงยังไม่ได้ข้อสรุป โดยภายในเดือน ม.ค. 2568 จะต้องมีการประชุมเพื่อสรุปรายละเอียดอีกครั้ง โดยจะต้องมีการเสนอรายละเอียดเกณฑ์ใหม่ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติต่อไป ก่อนจะเตรียมเปิดลงทะเบียนรอบใหม่ คาดว่าจะเปิดให้ลงทะเบียนก่อนสิ้นเดือนมีนาคม 2568 โดยคาดจะมีผู้ลงทะเบียนกว่า 25 ล้านคน แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้
1. บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ กลุ่มเดิมคือผู้ที่มีสิทธิในปัจจุบันที่ผ่านกระบวนการแล้ว 14.5 ล้านคน จะไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ รัฐบาลจะนำรายชื่อไปคัดกรองสิทธิอัตโนมัติ
2. บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ กลุ่มใหม่ที่ประมาณการไว้ที่ 10 ล้านคน คือกลุ่มที่ยังไม่เคยได้รับสิทธิมาก่อน ซึ่งมาจากประชาชนที่อายุครบ 18 ปี เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา กลุ่มที่เคยลงทะเบียนแต่ไม่ได้รับสิทธิ 4-5 ล้านคน และกลุ่มอื่นๆที่คาดการณ์ไว้ก็มีอีกหลายๆล้านคนที่คงจะมาลงทะเบียน ซึ่งไม่ได้หมายความว่าทั้งหมดจะได้รับสิทธิก็ต้องมาตรวจสอบตามกลไกต่อไป
ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 รอบใหม่ ผ่านแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ"
ในส่วนของกลุ่มผู้ที่ยังไม่เคยได้รับสิทธิมาก่อนจะต้องมีการลงทะเบียน โดยจะเริ่มได้ก่อนสิ้นเดือน มี.ค. 2568 โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาการลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" และขั้นตอนการลงทะเบียนที่อำนวยความสะดวกให้กับประชาชน
คุณสมบัติผู้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐปี 2568
- คุณสมบัติผู้มีสิทธิลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐตามเกณฑ์เดิม ซึ่งคาดว่าจะใช้ในการลงทะเบียน เบื้องต้นได้กำหนดไว้ดังนี้
- ลงทะเบียนรายบุคคล และตรวจสอบคุณสมบัติเป็นรายบุคคลและครอบครัว
- ต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทย อายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
- มีรายได้คนละไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี หรือภายในครอบครัว มีรายได้เฉลี่ยไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปี
- ทรัพย์สินทางการเงิน ได้แก่ เงินฝาก พันธบัตร ตราสารหนี้ต่างๆ ต้องไม่เกิน 100,000 บาทต่อคน หรือในระดับครอบครัวไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปีเช่นเดียวกัน
- ต้องไม่มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ หรือที่ดิน เกินจากเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังกำหนด
- ไม่มีบัตรเครดิต
- ไม่มีวงเงินกู้บ้านตั้งแต่ 1.5 ล้านบาทขึ้นไป
- ไม่มีวงเงินกู้ซื้อรถตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป
- ไม่เป็นภิกษุ สามเณร ผู้ต้องขัง บุคคลที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ ข้าราชการ พนักงานราชการ ผู้รับบำเหน็จรายเดือน ผู้รับบำนาญ ข้าราชการการเมือง รวมถึง สส. และ สว.
กรณีไม่มีครอบครัว ห้องชุดต้องไม่เกิน 35 ตร.ม. และที่ดินที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตร ไม่เกิน 1 ไร่ และใช้ในการเกษตร ไม่เกิน 10 ไร่ มีบ้านพร้อมที่ดิน บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ ตึกแถว ไม่เกิน 25 ตร.ว. และรวมกันหมดแล้ว พื้นที่การเกษตรไม่เกิน 10 ไร่
นอกจากนี้ได้สั่งการให้ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ดำเนินการตรวจสอบทบทวนหลักเกณฑ์ทั้งเก่าและใหม่ เพื่อให้ครอบคลุมกับการดำเนินงาน ป้องกันไม่ให้คนจนไม่จริงเข้ามาสวมสิทธิ ซึ่งในด้านเกณฑ์รายได้ครัวเรือนยังมีอยู่เหมือนเดิม ขณะที่เกณฑ์เรื่องการถือครองที่ดิน จะทำให้สามารถตรวจสอบใช้ได้จริง พร้อมจะดูรายละเอียดในเรื่องสินทรัพย์ การถือครองสลาก และพันธบัตร
บัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้เงินช่วยเหลือเท่าไหร่
- วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค 300 บาทต่อคนต่อเดือน
- วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาท ต่อคนต่อเดือน
- วงเงินส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม 80 บาท ต่อคนต่อ 3 เดือน
- มาตรการบรรเทาภาระค่าน้ำประปา 100 บาท ต่อครัวเรือนต่อเดือน
- มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า 315 บาท ต่อครัวเรือนต่อเดือน
- รวมเป็นเงิน 1,545 บาท