นายห้างเมาตบ "ไรเดอร์" ไม่ธรรมดา ที่แท้เจ้าพ่ออสังหาฯ ดังระดับประเทศ

จากกรณีที่ตำรวจ สน.หัวหมาก นำกำลังบุกเข้าช่วยเหลือ “ไรเดอร์หนุ่ม” หลังถูกเศรษฐีนายห้างชื่อดังจับตัวลากเข้าบ้านหลังใหญ่ ก่อนใช้ปืนตบทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บ พร้อมข่มขู่ว่า “จะหมกศพไว้ข้างบ้านเหมือนหมา” ตำรวจสามารถยึดอาวุธปืนได้ถึง 5 กระบอก และพบว่าผู้ก่อเหตุมีนามสกุลเดียวกับบุคคลมีชื่อเสียง เจ้าของกิจการโรงแรมหลายแห่ง

 

ต่อมามีนายท็อป (นามสมมติ) เป็นลูกน้องของเจ้าของบ้านซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามบ้านผู้ก่อเหตุ มาร้องเรียนทีมข่าว  ว่าบ้านเจ้านายก็ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าว  เนื่องจากตอนผู้ก่อเหตุยิงปืนอออมาจากบ้าน หลังจากลากไรเดอร์เข้าบ้าน  แล้วยิงปืน 1 นัด กระสุนดังกล่าวมาโดนรั้วบ้านเจ้านายได้รับบาดเจ็บ แต่เจ้านายไม่กล้าแจ้งความ เพราะเพื่อนบ้านที่ก่อเหตุรู้จักนายใหญ่ที่เป็นข้าราชการในพื้นที่

โดยนายท็อป (นามสมมติ) ผู้เห็นเหตุการณ์  เล่าว่า  ตอนนั้นตนอยู่ในบ้านได้ยินเสียง ลักษณะคล้ายไฟช็อตหรือหม้อแปลงระเบิด ก็ออกมาดูพบว่ารถไรเดอร์ล้มลงหน้าบ้านผู้ก่อเหตุ แล้วจากนั้นผู้ก่อเหตุก็ลากไรเดอร์เข้าไปในบ้านเจ้าตัว พอไรเดอร์เข้าไปในบ้านไม่นานเท่าไหร่ ตนเองก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ยอมรับว่าไม่กล้าไปยุ่ง เพราะผู้ก่อเหตุเป็นชาวต่างชาติ
ลักษณะแขกอินเดีย

ต่อมาไม่นานตำรวจก็มาล้อมเต็มหน้าบ้านพักผู้ก่อเหตุ ซึ่งตำรวจทยอยมาด้วยกันหลายชุดพยายามจะกดดันให้ผู้ก่อเหตุเปิดประตูบ้านและออกมามอบตัวแต่ก็ไม่เป็นผล จะบุกเข้าไปก็ไม่ได้เพราะบริเวณกำแพงบ้านผู้ก่อเหตุติดรั้วไฟฟ้าไว้ตลอดแนว จึงไม่กล้าบุกจนกระทั่งตำรวจต้องพยายามติดต่อแม่ของผู้ก่อเหตุให้มาที่บ้านลูกชายที่เกิดเหตุ


เมื่อแม่ผู้ก่อเหตุมาถึงปรากฏว่าแผนได้ผลผู้ก่อเหตุยอมเปิดประตูรั้วไฟฟ้าเพื่อให้แม่เข้าไปในบ้าน หลังจากแม่เข้าไปในบ้านสักพัก แม่ของผู้ก่อเหตุก็ออกมาพร้อมกับผู้ก่อเหตุและไรเดอร์ จากนั้นทางอาสาสมัครกู้ภัยก็เร่งเข้าทำการช่วยเหลือไรเดอร์ทันที  เบื้องต้นที่ตนเห็นได้รับบาดเจ็บบริเวณแขนและศีรษะ  

 

ซึ่งตัวไรเดอร์ให้การสั้นๆว่า  ถูกผู้ก่อเหตุลากเข้าไปในบ้านโดยเข้าไปที่ห้องๆหนึ่ง ก่อนถูกทำร้ายร่างกายและกักขังหน่วงเหนี่ยว ซึ่งในบ้านผู้ก่อเหตุมีปืนเยอะ ประมาณ 30 กระบอกส่วนตัวเชื่อไรเดอร์อาจมาส่งอาหารให้ผู้ก่อเหตุ แต่คงทำอะไรไม่ถูกใจ ผู้ก่อเหตุจึงทำเรื่องดังกล่าว

ชี้พฤติกรรมชาวต่างชาติที่ก่อเหตุ มาสร้างบ้านพักหลังนี้ อยู่ที่ชุมชนนี้มา 3 ปี แล้ว คนในชุมชนไม่อยากเข้าไปยุ่งเพราะเป็นชาวต่างชาติด้วยและฐานะของบ้านชาวต่างชาติก็ดี เพราะทำธุรกิจเกี่ยวกับอัญมณี บ้านเขารวยมาก แต่พฤติกรรมบางวันก็เมากินเหล้าเสียงดังและมีบ่อยมากที่ถือปืนสั้นออกมายืนแล้วเดินไปเดินมาในซอย แล้วก็มีบางครั้งที่ยิงปืนออกมาจากนอกบ้าน ก็คนมีเงิน คงจะทำอะไรก็ตามใจเขา เห็นว่ารู้จักตำรวจด้วย เลยไม่มีคนกล้ายุ่ง
 

ด้านพันตำรวจเอด พรทวี สมวงค์ ผกก.สน.หัวหมาก พร้อมด้วย พ.ต.ต.สีหเดช ศกลกันต์ สวป.สน.หัวหมาก นำกำลังฝ่ายป้องกันปราบปราม สน.หัวหมาก เข้าจับกุมตัวนายสิริอานนท์ อายุ 46 ปี สัญชาติไทย พร้อมตรวจยึดอาวุธปืนแม็กกาซีน แบบออโตเมติก รวม 5 กระบอก ที่ใช้อาวุธปืนก่อเหตุทำร้ายร่างกายและข่มขู่ นายอุทิตย์ หนูแดง อายุ 46 ปี อาชีพไรเดอร์ บ.แกร๊ป จนได้รับบาดเจ็บ ขณะเข้าไปรับออเดอร์พัสดุ เหตุเกิดบ้านเลขที่ 36 ซอยพระราม 9 ซอย 35 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม.

จากการสอบถาม นายอุทิตย์ หนูแดง อายุ 46 ปีไรเดอร์ และเป็นวิน จยย. ชุมชนหัวหมาก เขตสวนหลวง (ผู้เสียหายและผู้บาดเจ็บ) เล่าเหตุการณ์ว่า ผู้ก่อเหตุยิงปืน 1 นัดเสร็จ บริเวณประตูบ้าน ก่อนจะเอาปืนมาจ่อหัว และตบหัวหลายครั้ง จากนั้นลากตนไปเตะ จนต้องกราบขอร้องชีวิต และบอกเขาว่าตนมารับออเดอร์ แต่เขาไม่ฟังอะไรเลย ยังเตะตนต่อเนื่อง เรียกง่ายๆ ซ้อมเหมือนหมาตนกราบเท้าเขาถึง 20 ครั้ง เขายังไม่ยอมปล่อย พอกราบ เขาเตะยอดหน้า แล้วถีบ กระทืบ วนอยู่อย่างนี้ สุดท้ายเขาเอาปืนออกมาวางโชว์ 5 กระบอก แล้วยังหักแขน ล็อกคอ คล้ายจะเอาชีวิตตนให้ได้ สิ่งที่ทำให้รู้สึกกลัวมากที่สุด ตอนเขาบอกว่า "กูจะหมกมึงเหมือนหมาข้างบ้านนี้เลย"

ตนไม่ทราบว่าไปทำอะไรให้เขา จนโดนทำร้ายขนาดนี้ และเขายังกล่าวหาว่าตนเป็นสาย ซึ่งคนที่เรียกไปรับพัสดุ น่าจะเป็นภรรยาเขา หลอกให้ตนไปสอดแนมว่ามีใครอยู่กับเขาหรือไม่ แต่ลักษณะคนที่สั่งออเดอร์ตนให้ไปรับของ โทรมาบอกว่าขอคุยกับผู้ก่อเหตุ แต่เขาไม่คุย แล้วเอาปืนมาตบ และซ้อมตน จนสุดท้ายแม่เขาเข้าไปในบ้าน และตำรวจตามเข้าไปช่วยตนรอดมาได้ 

ด้าน พ.ต.อ. พรทวี สมวงศ์ ผกก.สน.หัวหมาก เปิดเผยว่า ช่วงประมาณ 15.30 น.ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุว่า พบเห็นชายคล้ายแขกขาว (นายสิริอานนท์ อายุ 46 ปี) กระชากวินไรเดอร์เข้าไปในบ้าน จากนั้นได้ยิงเสียงคล้ายปืน เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงพบมีบ้านเดี่ยวมีรั้วสูงรอบขอบชิด เมื่อตำรวจไปถึงมีแม่ผู้ก่อเหตุมาถึงพอดีจึงขอให้เข้าไปดู แล้วก็เปิดประตูให้ เมื่อเข้าไปในบ้านก็พบว่า มีแขกขาวอยู่ห้องรับแขก แล้วไรเดอร์บอกว่าจะมารับของแต่ถูกแขกขาวกระชากเข้ามาในบ้านแล้วทำร้ายร่างกาย เมื่อไปตรวจสอบในบ้านพบอาวุธปืนแมกกาซีนวางอยู่ 5 กระบอก บนโต๊ะห้องรับแขก ผู้ก่อเหตุร่างกายมีกลิ่นเหล้า และตาแดง 

โดยผู้ก่อเหตุให้การว่า ช่วง 4-5 วันที่ผ่านมา มีไรเดอร์มาป่วน กดกริ่งที่บ้านจนเดือดร้อนรำคาญ พอผู้เสียหายมาถึงหน้าบ้านในลักษณะกับที่เคยพบเจอก็เลยก่อเหตุ เพราะรู้สึกเหมือนกับถูกบุกรุก ส่วนอาวุธปืนยืนยันมีใบทะเบียนถูกต้อง ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบชื่อผู้ครอบครองอาวุธปืน

เบื้องต้นผู้ก่อเหตุเข้าข่ายความผิดทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ, กักขังหน่วงเหนี่ยว ส่วนความผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน อยู่ระหว่างตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป ส่วนผู้เสียหายได้ทำใบส่งตัวไปตรวจร่างกายเพิ่มเติม เพื่อดูว่าอันตรายถึงสาหัสหรือไม่ เพื่อนำไปประกอบสำนวนแจ้งข้อหาเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามยืนยันให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ไม่ว่าผู้เสียหายและผู้ก่อเหตุจะยากดีมีจนก็ตาม ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างสอบสวน

ต่อมามีรายงานว่าผู้ก่อเหตุนั้น เป็นบุคคลมีชื่อเสียงระดับประเทศ มีตำแหน่งเป็นประธานกรรมการบริหารบริษัท ซึ่งเป็นบริษัทประกอบกิจการอสังหาริมทรัพย์ และเตรียมสร้างโรงแรมหรูกลางเมือง บนถนนสุขุทวิททองหล่อในปี 2569 และเตรียมขยายธุรกิจเปิดตัวโรงแรมอีกกว่า 200 แห่งทั่วโลก ภายใน 3 ปีข้างหน้า

 ทั้งนี้ ประวัติของผู้ก่อเหตุ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชื่อดังระดับโลก (University of San Francisco) สาขาการเงิน และเคยทำงานเป็นที่ปรึกษาการเงินที่บริษัท Morgan Stanley ในสหรัฐอเมริกา ก่อนที่จะกลับมาทำงานในประเทศไทยกับบริษัทใหญ่ในกลุ่มธุรกิจจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์