"ทนายตั้ม" ไม่รอด อัยการสั่งฟ้องพร้อมพวก เจอข้อหาหนัก ฉ้อโกง-ฟอกเงิน
อัยการสั่งฟ้อง "ทนายตั้ม" พร้อมพวกใน คดีฉ้อโกง-ฟอกเงิน คดีโกงเงินเจ๊อ้อย พร้อมสั่งชดใช้เงินคืนรวมกว่า 111 ล้านบาท
วันที่ 30 ม.ค. 2568 ล่าสุดสั่งฟ้องทนายตั้มและพวก 2 คดีหลัก ดังนี้ สำนักงานอัยการสูงสุดเผยความคืบหน้าคดีนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ "ทนายตั้ม" และพวก ฐานฉ้อโกงและฟอกเงิน หลังได้รับสำนวนจากกองปราบฯ เมื่อ 20 ม.ค. อัยการจึงตั้งคณะทำงานพิจารณา
คดีที่ 1: ฉ้อโกงและฟอกเงิน
ผู้กล่าวหา: น.ส.จตุพร อุบลเลิศ และ พ.ต.ต.สันติชัย ศรีสวัสดิ์
ผู้ต้องหา: นายษิทรา (ผู้ต้องหาที่ 1) และ น.ส.ปิณฑิรา การิวัลย์ (ผู้ต้องหาที่ 2)
ข้อหา: ฉ้อโกง, ร่วมกันฟอกเงิน, สมคบกันฟอกเงิน
ฐานความผิด: ประมวลกฎหมายอาญา ม.83, 341 และ พ.ร.บ.ฟอกเงิน ม.3(18), 5, 9 วรรคสอง และ 60
คดีที่ 2: หลอกลงทุน-ปลอมแปลงเอกสาร
ผู้กล่าวหา: น.ส.จตุพร อุบลเลิศ กับพวกรวม 4 คน
ผู้ต้องหา: นายษิทรา และพวกรวม 7 คน
ข้อหา:
- ฉ้อโกงประชาชน
- หลอกลวงให้ร่วมลงทุนแอปพลิเคชันซื้อขายหวยออนไลน์
- นำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
- แจ้งความเท็จต่อเจ้าหน้าที่
- ปลอมแปลงเอกสารสิทธิ และใช้เอกสารสิทธิปลอม
- ฟอกเงิน
คำสั่งฟ้องและการดำเนินคดี
นายษิทรา เบี้ยบังเกิด (ผู้ต้องหาที่ 1) – สั่งฟ้องฐานฉ้อโกง, ฟอกเงิน และความผิดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงขอให้ศาลสั่งคืนหรือชดใช้เงินจำนวน 72,597,764.70 บาท ให้ผู้เสียหาย
นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด (ผู้ต้องหาที่ 2) และ นางสาวปิณฑิรา การิวัลย์ (ผู้ต้องหาที่ 5) – สั่งฟ้องฐานฟอกเงินและสมคบกันกระทำความผิดฐานฟอกเงิน
นายนุวัฒน์ ยงยุทธ (ผู้ต้องหาที่ 3) และ นางสาวสารินี นุชนารถ (ผู้ต้องหาที่ 4) – สั่งฟ้องฐานฉ้อโกง, นำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และฟอกเงิน พร้อมขอให้คืนเงินจำนวน 39,000,000 บาท ให้ผู้เสียหาย
นางสาวแก้วสวรรค์ สุขผล (ผู้ต้องหาที่ 6) และ นางสาวมนันพัทธ์ รามธีรพัฒน์ (ผู้ต้องหาที่ 7) – สั่งฟ้องฐานปลอมแปลงเอกสารสิทธิ
บางส่วนของคดีเกิดขึ้นนอกราชอาณาจักร อัยการสูงสุดร่วมสอบสวนกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยมี พล.ต.ต.ตรี สุวัฒน์ แสงนุ่ม เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน อัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 ได้ยื่นฟ้องต่อศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ซึ่งศาลรับฟ้องเป็นคดีหมายเลข อทย.109/2568
วันนี้ ผู้ต้องหาบางส่วนเดินทางมาฟังคำสั่งฟ้องและถูกนำตัวขึ้นศาล ขณะที่บางรายได้รับการประกันตัว ศาลอาญานัดสอบคำให้การจำเลย 7 ก.พ. 2568 เวลา 09.00 น.