"แพทองธาร"ดีใจไทยผ่านสมรสเท่าเทียม อยากให้กฎหมายได้ดูแลปชช. ในทุกเพศสภาพ
“แพทองธาร ชินวัตร”นายกรัฐมนตรี เผยภูมิใจที่ "สมรสเท่าเทียม"ผ่านแล้ว นั่นคือเครื่องหมายของการที่เราอยากให้คนเท่าเทียม อยากให้กฎหมายได้ดูแลประชาชน ในทุกเพศสภาพ
3ก.พ.68 ฐานเศรษฐกิจ และ ฐานดิจิทัล เปิดเวทีจัดงานสุดยิ่งใหญ่ “Go Thailand 2025: Women Run the World” นำเสนอแนวคิดการบริหารของสุดยอดผู้นำหญิงระดับแนวหน้าของประเทศไทย คุณฉาย บุนนาค ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เนชั่น กรุ๊ป กล่าวต้อนรับนายกรัฐมนตรีและรายงานการจัดงาน ณ TRUE ICON HALL ชั้น 7 ICON SIAM
โดย“แพทองธาร ชินวัตร”นายกรัฐมนตรี ขึ้นกล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ GO Thailand 2025: The Nation Power - Vision to Action พร้อมร่วมมอบรางวัล “The Best Woman Leadership” 8 สาขา สะท้อนบทบาทสตรีในการนำองค์กรสู่ความสำเร็จ
นอกจากนี้ GO THAILAND 2025 เปิดเวทีของการแสดงวิสัยทัศน์ของผู้นำสตรีทั้งในภาคเอกชนและการเมือง สะท้อนศักยภาพการเป็นผู้นำแห่งอนาคต
โดยในช่วงหนึ่ง นายกฯแพทองธาร ได้กล่าวด้วยความดีใจและภูมิใจ กับการที่ สมรสเท่าเทียมผ่านและบังคับใช้แล้ว อยากให้กฎหมายได้ดูแลประชาชน ในทุกเพศสภาพ
ประเทศเรา เปิดรับ"สมรสเท่าเทียม" ที่เพิ่งผ่านไปในวันที่ 23ม.ค.68 ในฐานะนายกรัฐมนตรีก็ถือว่าเป็นความภาคภูมิใจอย่างมากที่ได้เป็นนายกฯในประเทศที่ กฎหมายสมรสเท่าเทียมผ่านแล้ว นั่นคือเครื่องหมายของการที่เราอยากให้คนเท่าเทียม อยากให้กฎหมายได้ดูแลประชาชน ในทุกเพศสภาพ อันนี้คือสิ่งที่สำคัญและเป็นสิ่งที่น่าภูมิใจ สำหรับคนไทยทุกๆคนค่ะ
นอกจากนี้ นายกฯแพทองธาร ยังกล่าวถึงการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลด้วยว่า ล่าสุดได้มีโอกาสไปแสดงวิสัยทัศน์ประเทศไทยในการประชุม World Economic Forum ประจำปี 2568 (WEF Annual Meeting 2025: WEF AM25) ระหว่างวันที่ 20 - 25 มกราคม 2568 ณ เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส และได้พบกับผู้นำทั้งภาครัฐและเอกชนหลายรายทั่วโลก โดยนำเสนอวิสัยทัศน์ประเทศไทย 3 เรื่อง ดังนี้
1.การผลักดันประเทศไทยเป็นครัวโลก
นายกฯ กล่าวว่า จากการเดินทางไปพบปะกับผู้นำทั้งภาครัฐและเอกชนหลายราย รัฐบาลได้พยายามดึงดูดให้หลาย ๆ ประเทศพิจารณาใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการสร้างความมั่นคงทางอาหาร โดยเฉพาะการนำนวัตกรรมการเก็บอาหารไว้ใช้ในระยะยาว เพราะปัจจุบันหลายประเทศไม่สามารถเก็บอาหารได้นาน ซึ่งรัฐบาลได้นำเสนอนวัตกรรมในการเก็บอาหาร เมื่อประเทศต้องการก็สามารถส่งได้ในระยะเวลาอันสั้น ซึ่งทุกคนได้ชื่นชมและสนใจเข้ามาทำงานกับไทย
ทั้งนี้รัฐบาลยังได้พยายามผลักดันนโยบายตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ โดยส่งเสริมการใช้นวัตกรรมมาในภาคการเกษตร ช่วยเพิ่มรายได้ในภาคเกษตรของไทย พร้อมทั้งพยายามหาเทคโนโลยีเข้ามาเติมเต็มตรงจุดแข็งนี้ให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น
2.การพัฒนาวัฒนธรรมไทยเพื่อสร้างให้เกิดมูลค่าเพิ่มมากขึ้น
นายกฯ ยอมรับว่า ปัจจุบันรัฐบาลพยายามหาทางนำเสน่ห์ของไทยมาพัฒนาเป็นเทศกาลต่าง ๆ ในเมืองหลักและเมืองรอง ให้เกิดขึ้นทุกเดือน เพื่อส่งเสริมการการท่องเที่ยว และสร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงการผลักดันการสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่มนุษย์สร้างขึ้น เพื่อเป็นตัวช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้ง สถานบันเทิงครบวงจร และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
ควบคู่ไปกับการดึงดูดอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ ทั้ง อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ และอุตสาหกรรมดาต้าเซ็นเตอร์ โดยพยายามดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาลงทุนในประเทศ พร้อมกันนี้รัฐบาลยังส่งเสริมพลังงานสะอาด ซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการของนักลงุทนต่างชาติ เช่นเดียวกับการลดต้นทุนด้านพลังงานให้สามารถแข่งขันกับประเทศต่าง ๆ ได้ด้วย
3.การพัฒนาคนรับอนาคต
นายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลพยายามผลักดันนโยบายหนึ่งอำเภอหนึ่งทุน หรือ ODOS ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญกับการเตรียมความพร้อมบุคลากรของไทยรองรับอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ในช่วง 10 ปีข้างหน้า โดยรัฐบาลพร้อมสร้างโอกาสของเด็กไทย เช่นเดียวกับการจัดหาอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้เพียงพอ ซึ่งเรื่องนี้ทุกกระทรวงต้องร่วมมือกัน