วุ่นสาวฝากครรภ์ 9 เดือน ครบกำหนดคลอด จู่ๆลูกหาย อัลตร้าซาวด์ไม่เจอ
สุดอลเวง สาวฝากครรภ์ครบ 9 เดือน ตรวจตามนัดตลอด หมอยืนยันลูกแข็งแรงหนัก 3,300 กรัม แต่ถึงวันคลอด โรงพยาบาลกลับบอกว่าลูกหาย อัลตร้าซาวด์ไม่เจอ
เมื่อ 3 ก.พ.68 นายวิชาญ อายุ 42 ปี พา น.ส.รุ่งอรุณ อายุ 38 ปี ภรรยา เข้าพบนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เพื่อขอความช่วยเหลือ กรณีภรรยาไปฝากครรภ์ที่ รพ.แห่งหนึ่งในจังหวัดปทุมธานี หมอยืนยันลูกแข็งแรงหนัก 3,300 กรัม แต่ถึงวันคลอด พอครบกำหนดคลอดปรากฎว่า ลูกหาย อัลตร้าซาวด์ไม่พบแล้ว
โดย น.ส.รุ่งอรุณ กล่าวว่า ตนพบว่าเริ่มตั้งครรภ์เมื่อเดือน ก.พ.67 ไปตรวจที่คลีนิก แห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี โดยคลีนิก ได้ให้สมุดฝากครรภ์มาด้วย ต่อมาเดือน พ.ค.67 ตนได้ย้ายไปฝากครรภ์ที่ รพ.แห่งหนึ่งในจังหวัดปทุมธานี เนื่องจากเป็นโรงพยาบาลตามสิทธิบัตรทอง ระหว่างฝากครรภ์ที่โรงพยาบาล ทุกอย่างเป็นไปตามปกติ หมอนัดไปอัลตร้าซาวด์ทุกเดือน ตนก็ไปตามกำหนดนัด
โดยสามีเป็นคนพาไปทุกครั้ง ต่อมาช่วงเดือน 16 ก.ย.67 ขณะที่ตนตั้งครรภ์ได้ประมาณ 7 เดือน หมอแจ้งว่าพบถุงน้ำคร่ำอีก 1 ใบในท้อง เป็นไปได้ว่าอาจจะตั้งครรภ์ซ้อน หมอจึงแจ้งว่าอาจจะต้องผ่าคลอดลูกคนแรกก่อนกำหนด ให้ตนเตรียมตัวและคอยสังเกตุอาการหากเจ็บท้องให้รีบมาโรงพยาบาลทันที
แต่เมื่อเวลาผ่านไปตนก็ไม่มีอาการผิดปกติอะไร หมอจึงมีกำหนดคลอดช่วงปลายเดือน พ.ย.67 แต่เมื่อถึงกำหนดคลอด ปากมดลูกตนยังไม่เปิด หมอจึงนัดอีกครั้งในวันที่ 15 ธ.ค.67 พอถึงวันที่ 15 ธ.ค.67 หมออัลตร้าซาวด์ดูพบว่าเด็กตัวใหญ่ น้ำหนักประมาณ 3,300 กรัม หมอจึงแจ้งว่าอาจจะต้องผ่าคลอด โดยมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 13,000 บาท ตนจึงปรึกษากับสามีเพื่อเตรัยมเรื่องค่าใช้จ่าย โดยหมอนัดผ่าในวันที่ 25 ธ.ค.67
แต่พอถึงวันนัด หมอแจ้งว่าตนป่วยมีอาการไอตลอด ไม่สามารถผ่าได้ หากผ่าแผลจะปริ ตนจึงแย้งไปว่าตนตั้งครรภ์มา 10 เดือนแล้ว หากไม่รีบผ่าจะเป็นอันตรายหรือไม่ ทางหมอจึงตอบกลับมาว่า ปกติกำหนดการตั้งครรภ์คือ 40 สัปดาห์ หรือ 10 เดือน บวกไปได้อีก 2 สัปดาห์ ไม่ใช่ 9 เดือนแบบที่คนทั่วไปเข้าใจ ดังนั้นการตั้งครรภ์ 40 - 44 สัปดาห์ ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ จากนั้นหมอก็ได้ให้ตนมาพบอีกครั้ง ในเดือน ม.ค.68
โดยหมอแจ้งว่าให้รอปากมดลูกเปิดเอง อยากให้คลอดเอง ร่างกายจะได้หายกลับมาเป็นปดติไวๆ โดยหมอนัดถี่มาก สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ตนก็ไปตรวจตามนัดทุกครั้ง หมอแจ้งแค่ว่า เด็กแข็งแรงดี น้ำหนักตัวปกติ 3,300 กรัม ปากมดลูกยังไม่เปิด ให้กลับมารอที่บ้าน
กระทั่งปลายเดือน ม.ค.68 ตนพบว่าลูกไม่ดิ้น ตนจึงให้สามีรีบพาไปโรงพยาบาล โดยไม่ได้นัดหมาย เพื่อตรวจครรภ์ ปรากฎว่า เมื่อไปถึง พยาบาลห้องฉุกเฉิน แจ้งว่า ไม่พบข้อมูลการฝากครรภ์ของตน ตนจึงแย้งไปว่าไม่พบได้ยังไง ในเมื่อตนฝากครรภ์ตั้งแต่เดือน พ.ค.67 และก็เดินทางมาตรวจครรภ์ที่โรงพยาบาลเป็นประจำทุกเดือน
ทางโรงพยาบาลจึงยอมตรวจครรภ์ให้ตนเอง แต่ก็ต้องช็อกซ้ำสอง เมื่อ พยาบาลแจ้งว่า ไม่พบการตั้งครรภ์ของลูกชายคนโตที่มีอายุครรภ์ 42 สัปดาห์ แต่อย่างใด พบเพียงการตั้งครรภ์ ที่มีอายุครรภ์ เพียง 3 เดือน เท่านั้น
ตนจึงเถียงไปว่า มันจะเป็นไปได้ยังไง ในเมื่อหมอเป็นคนนัดตนมาคลอดเอง แล้วตอนนี้ลูกชายตนหายไปไหน แต่ทาง จนท.ไม่มีคำตอบ โดย จนท.ยืนกรานบอกเพียงว่าไม่พบประวัติการฝากครรภ์ของตนแค่นั้น ตนกับสามีจึงกอดกันร้องไห้
หลังจากเดินทางออกจากโรงพยาบาลมาได้สักพัก ได้มี จนท.โรงพยาบาล โทรกลับมาแจ้งว่าพบสมุดฝากครรภ์และประวัติการฝากครรภ์ของตนแล้ว ทาง โรงพยาบาล ขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น ทางโรงพยาบาลขอรับผิดชอบทุกอย่าง
โดยขอนัดเจรจาไกล่เกลี่ยในวันที่ 10 ก.พ.68 เวลา 10.00 น. ตนจึงพยายามสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น ลูกตนหายไปไหน แต่ทางโรงพยาบาลพูดเพียงว่า รอมาพูดคุยกันในวันที่ 10 ก.พ.68 ทีเดียวจะดีกว่า ตนเห็นว่ามันไม่ถูกต้องจึงตัดสินใจพาสามีมาพบ สายไหมต้องรอด เพื่อขอความช่วยเหลือ เป็นกระบอกเสียงให้ชาวบ้านอย่างพวกตนให้ได้รับความเป็นธรรมด้วย
ทั้งนี้ทางด้าน นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ภายหลังรับแจ้งได้ประสานไปยัง ดร.ธนกฤต จิตรอารีรัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ นายแพทย์สาธารณสุข จังหวัดปทุมธานี เพื่อขอให้ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวว่าเป็นอย่างไร เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายต่อไป