เพื่อนแอนดริว เหยื่อสาดน้ำซุป ไม่เชื่อคำพูดแพร พรีมพ้นนักศึกษายังไม่พอ

 จากกรณีแก๊ง LGBTQ สาดน้ำซุปร้อนที่รังสิต ล่าสุดวันที่ 10 ก.พ. 2568 หลังจบรายการ โหนกระแส ที่อาคารมาลีนนท์ทาวเวอร์ กลุ่มเพื่อนของเจและแอนดริว ผู้เสียหาย ได้ออกมาเปิดใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2566 โดยในครั้งนั้น เจเคยถูกพรีมทำร้ายร่างกายมาก่อน และได้เปิดเผยรายละเอียดกับผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว รวมถึงวันที่เกิดเหตุสาดน้ำซุป ซึ่งเจ้าตัวก็อยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย

โดยกล้า หนึ่งในเพื่อนของผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ในคืนเกิดเหตุ ตนและแอนดริว (ผู้เสียหาย) ได้ออกไปรับประทานอาหารด้วยกัน ก่อนเกิดเหตุ พรีมได้บุกไปทำร้ายเจ ซึ่งเป็นเพื่อนของตน ที่คอนโดก่อน จากนั้นมีคนไปบอกพรีมว่าตนและแอนดริวกำลังนั่งกินข้าวอยู่บริเวณหน้าคอนโด ทำให้พรีมเปลี่ยนเป้าหมายมาหาเรื่องแอนดริวแทน เนื่องจากแอนดริวเป็นเพื่อนของเจ

ขณะเกิดเหตุที่แอนดริวถูกทำร้ายและถูกตัดผม ตนยังคงอยู่ในเหตุการณ์ พยายามห้ามแต่ด้วยความตกใจและไม่เคยเจอเหตุการณ์ลักษณะนี้มาก่อน จึงทำอะไรไม่ถูกและเกิดอาการสั่น จนกระทั่งหลังจากนั้น แอนดริวได้ให้รุ่นพี่มารับตนออกไปจากจุดเกิดเหตุ
 

ทั้งนี้ ตนยืนยันว่าพรีมไม่เคยหาเรื่องตนมาก่อน เพราะทราบมาว่าพีมเองก็ชื่นชอบตน ส่วนปัญหาระหว่างพรีมกับแอนดริวนั้น ตนไม่ทราบรายละเอียดแน่ชัด แต่คาดว่าอาจเป็นเพราะมีการแซะกันไปมา ประกอบกับช่วงหลังตนสนิทกับแอนดริวมากขึ้น ทำให้พีมไม่พอใจและเริ่มมีการเหน็บแนมมาโดยตลอด

สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างพรีมกับเจ ตนทราบจากเพื่อนว่าพรีมไม่ค่อยชอบเจ เนื่องจากเจเป็นคนพูดจาตรงไปตรงมาและบางครั้งอาจฟังดูไม่ดี ทำให้ทั้งสองฝ่ายไม่ถูกกันมาสักระยะแล้ว

ก่อนหน้านี้ ตนไม่เคยทราบว่าพีมมีพฤติกรรมชอบหาเรื่องคนอื่น จนกระทั่งพีมมาหาเรื่องเจตนา จึงได้รู้จักและรับรู้ถึงพฤติกรรมที่ใช้ความรุนแรงกับน้องเจ ซึ่งตนไม่โอเคกับสิ่งที่เกิดขึ้น

ที่ผ่านมา เจถูกหาเรื่องมาโดยตลอดและต้องการให้ทุกอย่างจบลง จึงนัดทีมมาคุยที่มหาวิทยาลัย ตอนแรกที่พีมมาถึง ก็ตะโกนเรียกชื่อเจก่อนจะกระชากและเตะ ทำให้ตนและเพื่อนต้องเข้าไปห้าม พยายามให้เจขึ้นไปพูดคุยบนรถสองคน แต่ตนกังวลเรื่องความปลอดภัย ขณะเดียวกัน พรีมก็เสนอทางเลือกให้เจเลือกระหว่างเอาหัวทุบพื้นหรือโดนแบบแอนดริว ซึ่งแม้เพื่อนบางคนของพีมจะพยายามห้าม แต่บางคนก็ทำตามคำสั่ง

นอกจากนี้ ตนยังใช้โทรศัพท์ถ่ายคลิป ทำให้กลุ่มของพรีมมพูดว่าถ่ายไปเถอะ เพราะตำรวจเคลียร์ให้ได้ง่ายๆ ในเหตุการณ์วันนั้น แพรี่ก็อยู่ด้วย และเป็นคนผลักพีมไปทำร้ายเจ ตนจึงไม่เชื่อคำพูดของแพรี่ในรายการที่ว่าไม่ได้ตั้งใจ เพราะแพรี่เองก็ใช้โทรศัพท์ถ่ายหน้าตนเช่นกัน

ส่วนกรณีที่พรีมอยู่ในเหตุการณ์ตอนแอนดริวโดนสาดน้ำซุป ตนเห็นว่าแพรี่พูดว่าอยากมาดูเหตุการณ์ด้วยตัวเอง สำหรับมาตรการของมหาวิทยาลัยที่ให้พรีมพ้นสภาพนักศึกษา ตนมองว่ายังไม่เพียงพอ เพราะยังมีคนอื่นในกลุ่มพีมที่เกี่ยวข้อง อยากให้ขยายผลไปถึงทุกคน เนื่องจากตนกังวลเรื่องความปลอดภัย

ปัจจุบัน พรีมถูกจับกุมและพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ทำให้ตนรู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อย