ราชกิจจาฯประกาศ ยกระดับความปลอดภัย Mobile Banking ออกมาตรการสำคัญ
![ราชกิจจาฯประกาศ ยกระดับความปลอดภัย Mobile Banking ออกมาตรการสำคัญ ราชกิจจาฯประกาศ ยกระดับความปลอดภัย Mobile Banking ออกมาตรการสำคัญ](https://image.thainewsonline.co/uploads/images/md/2025/02/rjJS7HSIzouh5uKVMavc.webp?x-image-process=style/lg-webp)
ธปท. ออกมาตรการใหม่ คุมเข้ม Mobile Banking จำกัด 1 คน 1 เครื่อง เพิ่มการยืนยันตัวตน ป้องกันภัยไซเบอร์ มีผลใน 30 วัน
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกประกาศที่ 4/2568 เรื่อง "การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของบริการทางการเงินและการชำระเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่" ซึ่งเผยแพร่ในราชกิจจานุเบกษา โดยกำหนดมาตรการใหม่เพื่อป้องกันภัยทุจริตและคุกคามไซเบอร์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีผลบังคับใช้ภายใน 30 วัน
เหตุผลในการออกมาตรการ ปัจจุบัน Mobile Banking ได้รับความนิยมสูงขึ้น แต่ก็เป็นเป้าหมายของภัยคุกคามทางไซเบอร์และการสวมรอยทำธุรกรรม (Unauthorized Payment Fraud) ที่ซับซ้อนขึ้น ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้บริการและเสถียรภาพของระบบการเงิน ธปท. จึงออกแนวทางป้องกันความเสี่ยงและยกระดับความปลอดภัยให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล
มาตรการสำคัญ
จำกัดการใช้งาน Mobile Banking
1 คน ใช้ได้เพียง 1 อุปกรณ์เท่านั้น เพื่อป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต
เพิ่มการยืนยันตัวตนในธุรกรรมที่มีความเสี่ยงสูง
โอนเงินตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป หรือโอนสะสม 200,000 บาทขึ้นไป ต้องมีการยืนยันตัวตนเพิ่มเติม
กำหนดวงเงินสูงสุดต่อวันตามกลุ่มผู้ใช้
เช่น ผู้ใช้อายุต่ำกว่า 15 ปี โอนได้ไม่เกิน 50,000 บาทต่อวัน
เสริมความปลอดภัยของระบบ Mobile Banking
ธนาคารต้องเฝ้าระวังและปรับปรุงระบบให้สอดคล้องกับมาตรฐานความปลอดภัยสากล
หลีกเลี่ยงให้บริการ Mobile Banking บนอุปกรณ์ที่มีความเสี่ยงสูง ตามที่หน่วยงานความปลอดภัย เช่น TB-CERT กำหนด
- มีผลใน 30 วัน นับจากวันที่ประกาศ
ข้อยกเว้นบางส่วน เช่น การหลีกเลี่ยงให้บริการบนอุปกรณ์ที่มีความเสี่ยง จะมีผลภายใน 60 วัน
ผลกระทบต่อผู้ใช้บริการ มาตรการนี้ช่วยลดความเสี่ยงจากภัยไซเบอร์ แต่ผู้ใช้บริการอาจต้องปรับตัว เช่น ใช้ Mobile Banking ได้เพียงอุปกรณ์เดียว และต้องยืนยันตัวตนเพิ่มขึ้นในบางธุรกรรม
สรุป มาตรการใหม่ของ ธปท. มุ่งเพิ่มความปลอดภัย Mobile Banking โดยจำกัด 1 คน 1 เครื่อง เพิ่มการยืนยันตัวตน และเสริมมาตรการป้องกันภัยไซเบอร์ มีผลใน 30 วัน เพื่อสร้างความมั่นใจในระบบการเงินของประเทศ