เปิดความเร็วรถบัสบึงกาฬคันที่ 3 พลิกคว่ำตกทางลงเขาศาลปู่โทน

ยังติดตามกันอย่างต่อเนื่อง จากอุบัติเหตุสลด รถบัสพลิกคว่ำตกเขาบริเวณโค้งลงเขาศาลปู่โทน ถนนสาย 304 จ.ปราจีนบุรี ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 18 ราย และบาดเจ็บ 31 ราย ล่าสุดทางกู้ภัยได้ลำเลียงร่างผู้เสียชีวิต 18 รายถึง จ.บึงกาฬแล้ว

 

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า จากการประชุมสรุปสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุ พบว่า ผู้ขับขี่ไม่ชำนาญเส้นทางและใช้ความเร็วไม่เหมาะสมกับเส้นทางลงเขา โดยรถบัสคันดังกล่าวขับมาด้วยความเร็ว 85 กิโลเมตร/ชั่วโมง ก่อนจะเสียหลักเฉี่ยวชนแบริเออร์และพลิกคว่ำ ซึ่งจากการตรวจสอบยังไม่พบร่องรอยการเบรกที่ชัดเจน

 

ทางด้าน นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม รวมถึงนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม ได้แสดงความห่วงใยต่อผู้ประสบเหตุ โดยได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก เข้าเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลกบินทร์บุรี พร้อมทั้งเร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงและสรุปผลการสอบสวนอย่างเร่งด่วน เพื่อนำไปสู่การดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ประกอบการขนส่งและผู้ประจำรถ

 

จากการตรวจสอบระบบ GPS พบว่า รถบัสโดยสารไม่ประจำทาง 2 ชั้น หมายเลขทะเบียน 30-0040 บึงกาฬ ขับด้วยความเร็วสูงเกินไป ขณะที่เส้นทางที่เกิดเหตุเป็นทางโค้งขวาและลงเขาต่อเนื่อง ส่งผลให้รถเสียหลักชนแผงกั้นและพลิกคว่ำ มีผู้บาดเจ็บ 31 รายและเสียชีวิต 18 ราย

 

นอกจากนี้กรมการขนส่งทางบกยังได้กำชับสำนักงานขนส่งจังหวัดปราจีนบุรีให้ความช่วยเหลือผู้ประสบเหตุทั้งด้านการรักษาพยาบาล การเยียวยาผู้ประสบภัยจากประกันภัย และอำนวยความสะดวกในการเดินทางกลับภูมิลำเนาหลังออกจากโรงพยาบาล

 

ก่อนหน้านี้ นายนาวิน อายุ 51 ปี คนขับที่ 2 เปิดเผยว่า รถบัสลมเบรกหมดทำให้คุมเบรกไม่ได้ ขณะลงเนิน ความเร็วจึงเพิ่มขึ้นจนต้องหักรถเข้าข้างทาง ขณะที่เจ้าของรถบัสที่นั่งมากับรถคันเกิดเหตุ ระบุว่า คนขับชำนาญเส้นทางและได้หยุดพักเปลี่ยนคนขับก่อนขึ้นเขา แต่ไม่ทราบว่ามีปัญหาเรื่องเบรก จนทำให้เกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้

 

บรรยากาศที่วัดป่าวิเวกธรรมคุณ ม.8 ต.พรเจริญ จ.บึงกาฬ เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 หลังจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างผู้เสียชีวิตมาถึงวัด มีญาติมารอยืนยันตัวตนท่ามกลางบรรยากาศเศร้าโศก โดยพิธีฌาปนกิจจะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 1 มีนาคม ซึ่งจะฌาปนกิจรวม 13 ศพที่วัดนี้ ส่วนอีก 3 ศพจะตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดป่าวิเวกพัฒนา และวัดบ้านหนองกุงพัฒนา