รวบ “เจ๊ฝน” เปิดร้านนวดบังหน้า แฉเบื้องหลังสุดฉาว

 ผู้กำกับสามแยกนำทีมบุก! ช่วยเด็กสาว 14-15 ปี จากขบวนการค้ามนุษย์ รวบ "เจ๊ฝน" เจ้าของร้านนวดฉาว จากกรณีที่สื่อช่อง 7 รายงานข่าว "ย่าร้อง หลานสาววัย 14 ถูกร้านนวดหลอกค้าประเวณี" ในรายการ  เจาะประเด็นข่าว 7HD เมื่อคืนวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 เวลาประมาณ 19.00 น. ผู้กำกับสามแยกพร้อมทีมสืบสวนลงพื้นที่ทันที หลังได้รับแจ้งเหตุ นำกำลังบุกช่วยเหลือเด็กหญิงวัย 14 ปี ตามที่ย่าร้องเรียน และขยายผลช่วยเด็กหญิงวัย 15 ปีอีกหนึ่งราย เบื้องต้นสามารถควบคุมตัว "เจ๊ฝน" เจ้าของร้านนวดผู้ต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

 

 โดยเมื่อวันที่ 27 ก.พ. 2568 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น. ดูแลงานสืบสวน พล.ต.ต.สามารถ พรหมชาติ ผบก.น.6 พ.อ.นริศ ปรารถนาพร รอง ผบก.น.6 สั่งการให้ พ.ต.อ.วิทวัส เข่งคุ้ม ผกก.สน.พลับพลาไชย 2 พ.ต.ท.สุทิน ยุ่นสมาน รองผกก.สส.สน.พลับพลาไชย 2 และชุดสืบสวนสน.พลับพลาไชย 2 จับกุมนางพสุนาถ สงวนนามสกุล อายุ 58 ปี เจ๊เจ้าของร้านนวดค้ามนุษย์

ข้อหา ค้ามนุษย์โดยแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณี โดยกระทำแก่บุคคลอายุไม่เกิน 15 ปี และ 18 ปี , จ้างเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี เป็นลูกจ้าง ,จ้างเด็กให้ทำงานอันอาจเป็นอันตรายต่อร่างกาย หรือจิตใจ มีผลกระทบต่อการเจริญเติบโต หรือขัดขวางต่อพัฒนาการของเด็ก และ ชักจูง ยุยง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กแสดงหรือกระทำการอันมีลักษณะลามกอนาจาร ไม่ว่าจะเป็นไปเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าตอบแทนหรือเพื่อการใด

สืบเนื่องจากพฤติการณ์ ด้วยเมื่อวันที่ 6 ก.พ.2568 ย่ามาแจ้งความว่า เด็กหญิงเอ นามสมมุติ อายุ 14 ปี หลาน ทำงานที่ร้านนวดแผนโบราณ ชื่อน้ำฝนและได้มีการค้ประเวณี ซึ่งเข้าข่ายการค้ามนุษย์โดยแสวงหาผลประโยชน์จากการค้าประเวณี เหตุเกิดที่ร้านนวดน้ำฝน สาขาแปลงนาม และสาขาผดุงด้าว เมื่อวันที่ 13 ก.ย. 2567 กรณีดังกล่าวเป็นเหตุที่เกิดขึ้นนานแล้ว สถานีตำรวจนครบาลพลับพลาไชย 2 ได้ทำการเข้าสืบหาข่าวแต่ไม่พบการค้าประเวณี จึงได้ขอหมายศาลเข้าค้นร้านนวดน้ำฝนทั้งสองสาขา จนจับกุมเจ้าของร้านทั้งสองสาขา ข้อหา ประกอบกิจการและดำเนินการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ(นวดเพื่อสุขภาพ)โดยไม่ได้รับอนุญาตและจับกุมพนักงานนวดในร้านอีก 4 คน ในข้อหา ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยหรือไทยประยุกต์ 

ต่อมา วันที่ 20 ก.พ.68 ได้สอบปากคำร่วมกับสหวิชา ด.ญ.เอ เพิ่มเติม ได้ความว่ายังมีเด็กที่ทำงานที่ร้านนวดเพิ่มเติมอีก โดยได้แบะแสว่า เด็กคนดังกล่าวใช้เฟซบุ๊กชื่อ Jarawee จึงทำการตรวจพิสูจน์จนทราบว่า คือ น.ส.บี นามสมมุติ อายุ 15 ปี โดยเชื่อว่าเด็กทั้งสองคนเป็นเหยื่อจากการค้ามนุษย์ ต่อเนื่องวันที่ 21 ก.พ.68 ได้รับตัว ด.ญ.เอ จากบ้านพักเด็กและครอบครัวฯ ส่งต่อไปยัง สถานคุ้มครองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ (บ้านปากเกร็ด)

วันที่ 22 ก.พ.68 ทราบว่า น.ส.บี ปัจจุบันย้ายกลับไปพักอาศัยอยู่ที่ จ.สตูล ด้วยคดีดังกล่าวเป็นความลับ เป็นการปฎิบัติหน้าที่ในชุมชนอิสลาม และเกรงว่าหากผู้กระทำความผิดรู้ตัว จะพาเด็กไปที่อื่น พ.ต.อ.วิทวัส จึงได้เดินทางไปสอบปากคำ น.ส.บี ด้วยตนเองที่ อัยการจังหวัดสตูล ต่อมาวันที่ 23 ก.พ.68 พ.ต.อ.วิทวัส เดินทางไปพบ ด.ญ.เอ และผู้ปกครอง ที่บ้านที่ จ.สตูล และนัดหมายให้ไปสอบปากคำพร้อมสหวิชาชีพที่อัยการจังหวัดสตูล

และวันที่ 24 ก.พ.68 เวลา 10.00 น. พ.ต.อ.วิทวัส พร้อมสหวิชาชีพ ได้สอบปากคำ ด.ญ.เอ พบว่าเป็นเหยื่อจากการค้ามนุษย์ ในรูปแบบการค้าประเวณี จนกระทั่งในวันที่ 26 ก.พ.68  ขอหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 235/68 แล้วได้ทำการจับกุม นางพสุนาถ ข้อหาก่อนนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย 

ทั้งนี้ สน.พลับพลาไชย 2 ขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั่วไป รวมถึงสถานประกอบการต่างๆ ในพื้นที่ ให้ตระหนักและดำเนินกิจการให้เป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ห้ามมีให้มีการค้าประเวณีหรือการกระทำใดๆ ที่สุ่มเสี่ยงต่อการกระทำผิดกฎหมาย โดยเฉพาะการบังคับใช้แรงงานเยี่ยงทาส การค้าประเวณีเด็ก อันมีลักษณะเข้าข่ายเป็นการค้ามนุษย์ เพราะจะเป็นการทำลายสังคมและเป็นการเสื่อมเสียภาพลักษณ์ของประเทศในสายตาชาวต่างประเทศ