หนุ่มร้องกองปราบฯ ถูกสาวรวมหัวทอง หลอกโอนเงิน 3 แสนบาท

วันที่ 3 มี.ค. 68 ดร.เกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความชื่อดัง พา นายกอล์ฟ (สงวนชื่อ-นามสกุล) อายุ 50 ปี อาชีพ พนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง เข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ป.ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดกับหญิงสาวที่รู้จักกันผ่านแอปหาคู่รวมหัวกับเพื่อนที่เป็นทอมอีกหนึ่งคนและสถาบันฯ ตรวจสอบพระในจังหวัดสมุทรปราการ หลอกลวงใช้พระเครื่องสมเด็จวัดระฆังปลอม 2 องค์ มูลค่าองค์ละ 5 แสนมาวางเป็นหลักประกัน ก่อนที่ทางผู้เสียหาย จะหลงกลโอนเงินให้ 3 แสนบาท

นายกอล์ฟ เปิดเผยชีวิตของเขาว่า ตนเองเคยมีภรรยามาแล้ว 2 คนๆ แรกมีลูกด้วยกัน 1 คน เลิกกันก่อนจะมีภรรยาคนที่สอง ไม่มีลูกกัน ก่อนจะแยกกันอยู่ มีชีวิตความเป็นอยู่สุขสบายพอสมควรไม่เดือดร้อนทั้งการงานการเงินแต่อย่างใดเปิดร้านรับซื้อขายโทรศัพท์มือถืออยู่ที่ พระนครศรีอยุธยา แต่ธุรกิจไม่ดีจนต้องปิดร้าน ก่อนไปสมัครเป็นพนักงานขับรถบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง

ต่อมา เดือน ส.ค. 2566 ได้รู้จักผู้หญิงชื่อ “กุ้ง” อายุ 49 ปี ผ่านทางแอพฯ หาคู่ จนเมื่อเดือน มี.ค.67 “กุ้ง” แนะนำให้รู้จักทอมคนหนึ่ง อายุ 63 ปี วันที่ 29 มี.ค.67 ทอมคนดังกล่าวขอให้ช่วยขับรถไปส่งที่ สถาบันตรวจสอบพระแห่งหนึ่งย่านสมุทรปราการ โดยมี “กุ้ง” “หมู”และ “มด” แฟนของหมูนั่งไปด้วย ช่วยเงินค่าน้ำมันรถมา 1 พันบาท

เพื่อพา “หมู” นำพระสมเด็จโต วัดระฆัง จำนวน 2 องค์ พิมพ์เกศทะลุ 1 องค์ พิมพ์ฐานแซม 1 องค์ ไปตรวจที่สถาบันฯ ดังกล่าว ที่มี อาจารย์ชื่อดัง เป็น ผอ.สถาบันฯ แห่งนี้ ได้ทำการตรวจสอบมวลสารพระเครื่องทั้ง 2 องค์ตามหลักกระบวนการ ก่อนออกประกาศนียบัตรรับรองพระแท้สมเด็จโต ทั้ง 2 องค์ให้กับ“หมู”เจ้าของพระเครื่อง

 

ตนเองซึ่งไม่มีความรู้เกี่ยวกับพระเครื่องเลย ลองสอบถาม ผอ.สถาบันฯ บอกว่าพระ 2 องค์นี้ ถ้าขายได้ราคาเท่าใด อาจารย์ ผอ.สถาบันฯ บอกอยู่ที่องค์ละ 5 แสนบาท

จากนั้น “หมู” บอกมีความจำเป็นเร่งด่วนจะต้องใช้เงินจำนวน 3 แสนบาท จะไปจัดการเกี่ยวกับหนี้สิน ถ้าได้มรดกจำนวน 20 ล้านบาท มาแล้วจะเคลียร์ให้โดยมอบพระสมเด็จวัดระฆังทั้ง 2 องค์ พร้อมรับรองพระแท้ ไว้เป็นหลักประกัน  

 

ตนสงสารและเห็นใจอยากจะช่วยเหลือทั้งสองคน แต่ไม่มีเงินสดเลย “กุ้ง” แนะตนให้เอารถยนต์ที่ใช้อยู่ ซึ่งผ่อนชำระหมดแล้วไปเข้าไฟแนนซ์ ได้เงินมา 3 แสนบาทเศษ แบ่งโอนให้ 2 คนไป

ผ่านไปสามวัน “หมู” ขอให้ตนเอาพระสมเด็จทั้งสององค์ไปส่งเข้าประกวดในงานประกวดพระเครื่อง ของสถาบันที่ไปตรวจพระวันก่อนให้เงินมา 3 พันบาท ค่าน้ำมัน 1 พัน ค่าเข้าประกวด 2 องค์ 2 พันบาท ผลออกมาพระทั้งสององค์ได้อันดับสองทั้งคู่ แต่หลังจากโอนเงินให้ทั้งสองคนแล้ว ปรากฏว่า “หมู” ไม่ยอมคืนเงิน ขอพระสมเด็จ 2 องค์คืนจะเอาไปขายคนจีนที่สนใจซื้อ ตนบอกต้องเอาเงิน 3 แสนมาก่อน

 

จนเมื่อต้นเดือนมกราคมไปให้เซียนพระหลายคนตรวจสอบเพื่อจะขายแต่เซียนพระบอกว่าพระปลอมและใบเซอร์ปลอมและติดต่อผู้หลอกลวงไม่ได้ในวันที่ 25 มกราคม 2568