ข่าว

heading-ข่าว

ม.เกษตรฯ จับมือ มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์ ยกระดับการพัฒนากระบือไทย อย่างยั่งยืน

06 มี.ค. 2568 | 16:32 น.
ม.เกษตรฯ จับมือ มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์ ยกระดับการพัฒนากระบือไทย อย่างยั่งยืน

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จับมือ มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี)และภาคีเครือข่ายยกระดับการพัฒนากระบือไทย ด้วยเทคโนโลยีและพันธุกรรมสู่การเลี้ยงที่มีประสิทธิภาพอย่างยั่งยืน

เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2568 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้จัดการประชุมวิชาการ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ครั้งที่ 63 ระหว่างวันที่ 4-6 มีนาคม 2568 โดยมีแนวคิดหลักคือ “ปัญญาประดิษฐ์สู่การใช้ประโยชน์และการพัฒนาอย่างยั่งยืน” ซึ่งการประชุมครั้งนี้มุ่งเน้นการเชื่อมโยงระหว่างนวัตกรรมและความยั่งยืนในการพัฒนาทั้งในด้านวิชาการและการปฏิบัติจริง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

heading-ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ม.เกษตรฯ จับมือ มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์ ยกระดับการพัฒนากระบือไทย อย่างยั่งยืน

ในโอกาสนี้ ภาควิชาสัตวบาล คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้จัดการเสวนาพิเศษในหัวข้อ “นวัตกรรมและความยั่งยืน : ยกระดับการผลิตและเพิ่มมูลค่ากระบือไทย” โดยมี รศ.ดร.ศกร คุณวุฒิฤทธิรณ จากหน่วยวิจัยเฉพาะทางพันธุศาสตร์สัตว์เขตร้อนชื้น ภาควิชาสัตวบาล คณะเกษตรมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นายสุพชัย ปัญญาเอก ผู้จัดการโครงการฟาร์มกระบือทันสมัย มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์

ม.เกษตรฯ จับมือ มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์ ยกระดับการพัฒนากระบือไทย อย่างยั่งยืน

นางจิราภัค ขำเอนก ประธานเครือข่ายผู้เลี้ยงกระบือจังหวัดบุรีรัมย์ และเจ้าของรวินันท์ฟาร์มสพ.ญ.ธาราทิพย์ พุ่มระชัฎร์ จากโครงการอนุรักษ์และพัฒนากระบือไทย นายนิรุจน์ พันธ์ศรี จากสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดบุรีรัมย์ กรมปศุสัตว์ รวมทั้ง นายสานน กันรัมย์ ผู้จัดการบริษัท สไมล์ บีฟ จำกัด ม.เกษตรฯ จับมือ มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์ ยกระดับการพัฒนากระบือไทย อย่างยั่งยืน ร่วมเป็นวิทยากรบนเวทีเสวนา

 

ซึ่งดำเนินรายการโดย นางธัญวรรณ ศรีวาจนะ จากสถานีวิทยุ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยมีการจัดขึ้นที่ ห้องประชุม 306 ชั้น 3 สำนักบริการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

รศ.ดร.ศกร คุณวุฒิฤทธิรณ อาจารย์ประจำ หน่วยวิจัยเฉพาะทางพันธุศาสตร์สัตว์เขตร้อนชื้น (TAGU) ภาควิชาสัตวบาล คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวถึงเป้าหมายของการจัดงานเสวนาครั้งนี้ว่า มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ความก้าวหน้าของการร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โครงการฟาร์มกระบือทันสมัย มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) โครงการอนุรักษ์และพัฒนากระบือไทย

 

รวมถึงเกษตรกรจากรวินันท์ฟาร์ม ปศุสัตว์ในพื้นที่ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดบุรีรัมย์ และบริษัท สไมล์ บีฟ จำกัด ซึ่งทุกภาคส่วนได้ร่วมแชร์ประสบการณ์และความสำเร็จในการดำเนินงานร่วมกันในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยเน้นการพัฒนาและยกระดับนวัตกรรมในการผลิตกระบือไทย โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านพันธุกรรมในการปรับปรุงพันธุ์เพื่อให้เกิดความยั่งยืน โดยมีการจัดเก็บข้อมูลพันธุ์ประวัติ น้ำหนัก และขนาดร่างกายที่อายุแตกต่างกันจากโครงการฟาร์มกระบือทันสมัย และเกษตรกรในโครงการฯ เพื่อนำมาวิเคราะห์และจัดทำ “หนังสือความสามารถทางพันธุกรรมพ่อแม่พันธุ์กระบือ 2568” เล่มที่ 2

 

ซึ่งในรอบการดำเนินงานนี้ได้ประเมินความสามารถในการเป็นแม่ (maternal ability) ของกระบือเพศเมีย ซึ่งจะช่วยเพิ่มความแม่นยำและความไม่ลำเอียงในการคัดเลือกพ่อแม่พันธุ์กระบือ


“เป้าหมายในอนาคต คือ การศึกษาทำความเข้าใจในความผันแปรทางพันธุกรรมในระดับจีโนม เพื่อให้เกษตรกรใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเหล่านี้อย่างเต็มที่ โดยมุ่งยกระดับฟาร์มกระบือให้เป็นธุรกิจที่ยั่งยืน ด้วยการเสริมสร้างเครือข่ายเกษตรกรผู้เลี้ยงกระบือให้แข็งแกร่งและสามารถแข่งขันได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต พร้อมพัฒนากระบือรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพสูงขึ้น เพื่อสร้างผลตอบแทนและโอกาสในธุรกิจในอนาคต

ม.เกษตรฯ จับมือ มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์ ยกระดับการพัฒนากระบือไทย อย่างยั่งยืน


นอกจากนี้ “การใช้ประโยชน์จากข้อมูลพันธุ์ประวัติ ข้อมูลลักษณะที่ปรากฏ และข้อมูลพันธุกรรมระดับจีโนม ในการประเมินความสามารถทางพันธุกรรม การคัดเลือก และการจับคู่ผสมพันธุ์ เพื่อการปรับปรุงพันธุ์กระบือ รวมถึงการพัฒนาคุณภาพการจัดการฟาร์ม ตั้งแต่การจัดการดูแลแม่อุ้มท้อง แม่เลี้ยงลูก จนถึงการพัฒนากระบือรุ่นใหม่ให้มีคุณภาพ และสามารถเจริญเติบโตแสดงคุณสมบัติที่เหมาะสมกับการเป็นกระบือพ่อแม่พันธุ์ทดแทนจะช่วยให้เกิดการพัฒนาที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน” รศ.ดร.ศกร กล่าว

 


นายสุพชัย ปัญญาเอก เปิดเผยว่า เครือเจริญโภคภัณฑ์ โดย มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ยังคงเดินหน้าสนับสนุนการอนุรักษ์และพัฒนากระบือไทยอย่างต่อเนื่อง ผ่าน “โครงการฟาร์มกระบือทันสมัย (Buffalo Modern Farm)” ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวทางการดำเนินธุรกิจที่มุ่งสร้างความยั่งยืน ควบคู่ไปกับการยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรไทยโครงการดังกล่าวดำเนินการภายใต้ความร่วมมือกับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผ่านหน่วยวิจัยเฉพาะทางพันธุศาสตร์สัตวเขตร้อนชื้น (TAGU) ภาควิชาสัตวบาล คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

ม.เกษตรฯ จับมือ มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์ ยกระดับการพัฒนากระบือไทย อย่างยั่งยืน

โดยนำองค์ความรู้ด้านการจัดการฟาร์มกระบือมาใช้ในการจัดเก็บข้อมูลพันธุ์ประวัติ น้ำหนัก และขนาดร่างกายในแต่ละช่วงอายุ พร้อมวิเคราะห์สถิติข้อมูล เพื่อยกระดับศักยภาพพันธุกรรมของกระบือไทย ให้สามารถผลิตกระบือคุณภาพสูง ตอบโจทย์ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ


นายสุพชัย กล่าวต่อว่า เป้าหมายสำคัญของโครงการ คือการเพิ่มคุณภาพของผลผลิต สร้างฐานข้อมูลพันธุกรรมที่แม่นยำ และเสริมความรู้-ทักษะให้เกษตรกรไทยสามารถพัฒนากระบือไทยให้ได้มาตรฐานสูง พร้อมสร้างรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืน ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจฟาร์มกระบือเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว


นอกจากนี้ “หนังสือความสามารถทางพันธุกรรมพ่อแม่พันธุ์กระบือ ปี 2568”ยังถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการคัดเลือกและพัฒนาพ่อแม่พันธุ์ เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมกระบือไทย โดยมีเป้าหมายในการสร้าง ศูนย์กลางการพัฒนาพันธุกรรมกระบือไทย ที่เน้นการพัฒนากระบือปลักไทยให้เป็นกระบือพันธุ์ดี เสริมศักยภาพเกษตรกรให้มีองค์ความรู้ที่ทันสมัย สามารถต่อยอดสู่การทำฟาร์มเชิงธุรกิจอย่างยั่งยืน ตั้งแต่การคัดเลือกสายพันธุ์ การจัดการอาหารและสุขภาพ ไปจนถึงการเชื่อมโยงตลาดอย่างครบวงจร

ม.เกษตรฯ จับมือ มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์ ยกระดับการพัฒนากระบือไทย อย่างยั่งยืน
ขณะเดียวกัน โครงการฟาร์มกระบือทันสมัยยังเปิดรับสมัครเกษตรกรรายย่อยที่เลี้ยงกระบือฝูงเล็ก 6-10 ตัว เข้าร่วมเป็นสมาชิกเครือข่าย เพื่อร่วมกันพัฒนาสายพันธุ์ สร้างเครือข่ายข้อมูลที่เข้มแข็ง และยกระดับคุณภาพกระบือไทยร่วมกัน จากข้อมูลพบว่า เกษตรกรที่เลี้ยงกระบืออย่างต่อเนื่อง มักมีฝูงเฉลี่ยประมาณ 6 ตัว ซึ่งถือเป็นฐานข้อมูลสำคัญในการพัฒนาและอนุรักษ์พันธุกรรมกระบือไทยให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น


ทั้งนี้  เครือซีพี เชื่อมั่นว่า การอนุรักษ์และพัฒนากระบือไทยควบคู่กับการยกระดับรายได้ของเกษตรกร จะเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมสนับสนุนการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งสอดคล้องกับ เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs)


การพัฒนากระบือไทยให้ก้าวหน้ายั่งยืน ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งเกษตรกร นักวิชาการ ภาครัฐ และภาคเอกชน ที่จะร่วมกันสร้างระบบการผลิตที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกัน การสร้างคุณค่าให้กับกระบือไทย ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การอนุรักษ์สายพันธุ์เพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการใช้ประโยชน์อย่างเหมาะสม การยกระดับประสิทธิภาพการเลี้ยง และการพัฒนาคุณภาพของผลผลิต เพื่อเสริมศักยภาพในการแข่งขันในตลาด ทั้งในและต่างประเทศ


ยิ่งไปกว่านั้น การพัฒนากระบือไทยยังเป็นการฟื้นคืนและส่งเสริมให้กระบือกลับมาเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตและวัฒนธรรมไทยอย่างแท้จริง สะท้อนถึงความผูกพันระหว่างคนไทยกับกระบือที่มีมาอย่างยาวนาน และต่อยอดให้เกิดการใช้ประโยชน์อย่างสร้างสรรค์และยั่งยืนต่อไป
 

ข่าวล่าสุด

heading-ข่าวล่าสุด

ข่าวเด่น

"แมทธิว - ลีเดีย" เปิดใจเล่ามรสุมชีวิต ถึงขั้นทำใจอาจจะไม่ได้เจอลูก

"แมทธิว - ลีเดีย" เปิดใจเล่ามรสุมชีวิต ถึงขั้นทำใจอาจจะไม่ได้เจอลูก

3 ราศี ดวงเดือนมีนาคม จะมีข่าวดีเรื่องการเงิน

3 ราศี ดวงเดือนมีนาคม จะมีข่าวดีเรื่องการเงิน

4 ราศี ดวงเดือนมีนาคม จะมีโชคลาภเกิดขึ้น

4 ราศี ดวงเดือนมีนาคม จะมีโชคลาภเกิดขึ้น

5 ราศี ดวงเดือนมีนาคม การเงินการงานดีมาก

5 ราศี ดวงเดือนมีนาคม การเงินการงานดีมาก

หนุ่มพลาดเที่ยวบินของตัวเอง วิ่งไปรันเวย์ โบกมือให้กัปตันจอดรับ

หนุ่มพลาดเที่ยวบินของตัวเอง วิ่งไปรันเวย์ โบกมือให้กัปตันจอดรับ