หนุ่มวัย 26 จู่ๆ เป็นอัมพาต หมอปวดหัวหลังรู้พฤติกรรมการกิน

หนุ่มวัย 26 จู่ๆ เป็นอัมพาต เข้าห้องฉุกเฉิน ต้องเข้ารับการผ่าตัดเพื่อเอาลิ่มเลือดออก หมอปวดหัวหลังรู้พฤติกรรมการกิน
อีกหนึ่งเคสศึกษาที่หลายคนให้ความสนใจ หลังจากที่มีรายงานจาก หมอหยาง จื้อเหวิน ซึ่งทำงานที่โรงพยาบาลไถจง ประเทศไต้หวัน ซึ่งได้เล่าถึงกรณีของผู้ป่วยชายวัย 26 ปีที่ต้องเข้ารับการรักษาหลังจากเกิดโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งสาเหตุของอาการนี้มาจากการรับประทานอาหารโปรดสองอย่างเป็นประจำมานาน
โดยผู้ป่วยถูกนำส่งห้องฉุกเฉินในสภาพอัมพาตแขนข้างหนึ่ง และผลการตรวจเลือดพบว่าเขามีภาวะความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง และดัชนีไขมันไตรกลีเซอไรด์ในเลือดเกิน 1,000 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร ซึ่งสูงกว่าค่าปกติถึง 7 เท่า (ค่าปกติต่ำกว่า 150 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร) ผลการตรวจภาพแสดงให้เห็นว่าผู้ป่วยเป็นโรคหลอดเลือดสมองตีบ จากลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือด และต้องเข้ารับการผ่าตัดเพื่อเอาลิ่มเลือดออก
โดยหลังการผ่าตัดสภาพสุขภาพของผู้ป่วยเริ่มดีขึ้น ทั้งนี้ จากการสอบถามถึงพฤติกรรมการกินอาหารของผู้ป่วย แพทย์พบว่าเขามีความชื่นชอบในการรับประทานไก่ทอดและน้ำอัดลมเป็นประจำ ถึงขนาดที่รับประทานทั้งสองอย่างเกือบทุกมื้อในแต่ละวัน ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ไม่ดีต่อสุขภาพโดยตรง
อีกทั้ง แพทย์อธิบายว่า การรับประทานอาหารทอดและน้ำอัดลมเป็นประจำสามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองและโรคหัวใจ เนื่องจากการรับประทานอาหารทอดมากเกินไปทำให้ไขมันไม่ดีสะสมในร่างกายและหลอดเลือด ส่งผลให้หลอดเลือดแดงแข็งตัวหรือเกิดการอุดตันจากลิ่มเลือด นอกจากนี้ การดื่มน้ำอัดลมที่มีน้ำตาลสูงบ่อยๆ ยังเชื่อมโยงกับโรคหัวใจ เบาหวานประเภท 2 และการเพิ่มน้ำหนักอย่างไม่คาดคิด
ตามรายงานจาก American Heart Association ยังเตือนว่า การดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลเป็นประจำสามารถเพิ่มความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองที่เกี่ยวข้องกับลิ่มเลือด และยังเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดหัวใจวายและการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร
อย่างไรก็ตาม แพทย์ได้แนะนำให้ผู้ป่วยในกรณีนี้ปรับพฤติกรรมการกินอาหาร โดยควรหลีกเลี่ยงอาหารทอดและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง และหันมารับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น อาหารที่มีกากใยและโปรตีนสูง พร้อมทั้งควบคุมระดับไขมันในเลือดและความดันโลหิตสูงด้วยการใช้ยา นอกจากนี้ยังต้องออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อลดน้ำหนักและรักษาสุขภาพที่ดีขึ้น
ข้อมูลจาก soha