นักธุรกิจ มอบมรดกให้เลขา สะใจรู้เบื้องลึกลูก-เมียไม่ได้สักแดง

นักธุรกิจวัย 60 ทำพินัยกรรมมอบทรัพย์ให้เลขา ลูกเมียยื่นฟ้องเรียกร้อง รู้เบื้องหลังไม่ได้สักแดง ไม่มีใครสงสารสักคน
เรื่องราวสุดสะเทือนใจของนักธุรกิจชาวจีนรายหนึ่งกำลังเป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวาง เมื่อเขาตัดสินใจเปลี่ยนพินัยกรรมในช่วงสุดท้ายของชีวิต หลังจากพบว่าคนที่เขารักและไว้ใจที่สุดกลับทรยศเขามานานหลายปี การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่เพียงสร้างความตกตะลึงให้กับครอบครัวของเขา แต่ยังนำไปสู่คดีฟ้องร้องทางกฎหมายที่ซับซ้อนเกี่ยวกับสิทธิในมรดกมหาศาล
เรื่องราวนี้เกิดขึ้นกัน นายเฉิน ชายวัย 60 ปีจากเฉิงตู ประเทศจีน เป็นเจ้าของโรงงานชื่อดังและมีทรัพย์สินจำนวนมาก เมื่อตรวจพบว่าเขาป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย เขาตัดสินใจจัดทำพินัยกรรมเพื่อดูแลอนาคตของภรรยาและลูกชาย
แต่แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนไป เมื่อระหว่างการรักษาตัวในโรงพยาบาล เขาได้ค้นพบความลับที่ทำให้หัวใจแตกสลาย ภรรยาของเขานอกใจมาเป็นเวลานาน และผลตรวจ DNA ยังยืนยันว่าลูกชายที่เขาเลี้ยงดูมาไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของเขา
แม้จะรู้สึกเจ็บปวดและถูกหักหลัง แต่นายเฉินเลือกที่จะไม่เผชิญหน้าหรือต่อว่าภรรยา เขาติดต่อทนายความและแก้ไขพินัยกรรมใหม่ โดยตัดสินใจยกกิจการโรงงานให้กับเลขาส่วนตัวของเขา ซึ่งเป็นคนที่อยู่เคียงข้างและช่วยเหลือเขามาตลอดในการบริหารงาน ขณะที่ทรัพย์สินอื่นๆ ถูกนำไปช่วยเหลือญาติพี่น้องและบริจาคเพื่อการกุศล ทุกอย่างดำเนินไปอย่างเงียบเชียบ โดยที่ภรรยาไม่เคยระแคะระคายถึงการเปลี่ยนแปลงนี้เลย
ไม่นานหลังจากพินัยกรรมได้รับการรับรอง นายเฉินก็จากไปอย่างสงบ เมื่อทนายความเปิดเผยพินัยกรรมฉบับใหม่ ภรรยาและลูกชายของเขาถึงกับช็อกเมื่อพบว่าตนเองไม่มีสิทธิ์ในมรดกเลย นางเฉินปฏิเสธที่จะยอมรับและฟ้องร้องขอให้ศาลเพิกถอนพินัยกรรม โดยอ้างว่าสามีของเธอป่วยหนักและอาจไม่มีสติสัมปชัญญะเพียงพอในการตัดสินใจ
ทว่า ฝ่ายกฎหมายของครอบครัวนายเฉินยืนยันว่าพินัยกรรมดังกล่าวมีผลทางกฎหมายสมบูรณ์ เนื่องจากได้รับการรับรองจากเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจ ศาลจึงตัดสินให้พินัยกรรมฉบับนี้มีผลบังคับใช้ ส่งผลให้นางเฉินและลูกชายหมดสิทธิ์ในมรดกทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม คดีนี้ได้รับความสนใจอย่างมากในโลกออนไลน์ หลายคนมองว่าไม่ใช่เพียงแค่คดีมรดก แต่เป็นโศกนาฏกรรมชีวิตคู่ของชายผู้ทุ่มเททุกอย่างให้ครอบครัว แต่สุดท้ายกลับต้องจากโลกนี้ไปพร้อมกับหัวใจที่แตกสลาย
ข้อมูลจาก SOHA