ผบ.ตร. ลั่น ไม่มีญาติแบบนี้ หลัง "ลูกชายนายกเบี้ยว" อ้างเป็นหลาน

"บิ๊กต่าย" ผบ.ตร. ลั่น ไม่มีญาติแบบนี้ หลัง "ลูกชายนายกเบี้ยว" อ้างเป็นหลาน หวังพ้นผิด ปมปาดหน้ากระบะทำลุงเข้าไอซียู
เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์อย่างรุนแรง หลังมีคลิปเหตุการณ์รถยนต์ BMW สีขาว ป้ายแดง ขับขี่ในลักษณะอันตรายบนมอเตอร์เวย์สายรังสิต–นครนายก โดยพยายามปาดหน้ารถกระบะสีดำหลายครั้ง ก่อนเฉี่ยวชนจนรถกระบะเสียหลักพุ่งชนแบริเออร์ ส่งผลให้คนขับ ซึ่งเป็นชายสูงอายุ ได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงขั้นซี่โครงหัก และต้องเข้ารักษาตัวในห้องไอซียู ขณะที่ภรรยาที่นั่งมาด้วยได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
หลังเกิดเหตุ พลเมืองดีได้บันทึกภาพเหตุการณ์และถ่ายรูปคนขับ BMW ไว้ได้ โดยมีรายงานว่า คนขับรถหรูรายนี้คือ นายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ หรือ "พีช" อายุ 28 ปี นักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ธัญบุรี ซึ่งต่อมาได้มีการกล่าวอ้างความใกล้ชิดกับ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยเรียก ผบ.ตร. ว่า “อาต่าย” พร้อมแสดงภาพถ่ายร่วมกัน อีกทั้งยังมีการกล่าวถึง “นายกฤษฎา หลีนวรัตน์” หรือ “นายกเบี้ยว” อดีตนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี ซึ่งเป็นบิดาของนายพีช
เกี่ยวกับกรณีนี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ได้ออกมาแสดงความไม่พอใจอย่างชัดเจน โดยระบุว่า ตนรู้จักกับนายกฤษฎาในฐานะที่เคยพบกันเมื่อตนดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เท่านั้น การถ่ายรูปเป็นเรื่องปกติของคนที่ขอถ่ายกับเจ้าหน้าที่ระดับสูง แต่ยืนยันว่าไม่ใช่ญาติ และไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ ทางครอบครัว พร้อมวิจารณ์ว่า การที่นายพีชมาอ้างว่าเรียกตนว่า “อาต่าย” เป็นพฤติกรรมโอ้อวดที่ไม่เหมาะสม ฟังแล้ว “ไม่รื่นหู” โดยกล่าวเพิ่มเติมว่า “ถ้าผู้กระทำความผิดมาเรียกน้าหรืออาเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ฟังแล้วรู้สึกไม่ดี”
ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า พฤติกรรมของผู้ก่อเหตุถือเป็นการกระทำที่ขาดวุฒิภาวะ ไม่มีจิตสำนึก และไร้ความรับผิดชอบ หากในรถกระบะมีเด็กนั่งอยู่ อาจเกิดเหตุที่รุนแรงกว่านี้ พร้อมย้ำว่า ยิ่งโอ้อวด ยิ่งจะได้รับโทษหนักขึ้น และได้สั่งการให้ตำรวจทางหลวง และ สภ.ลำลูกกา ดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา โดยไม่มีการช่วยเหลือหรืออุ้มใครทั้งสิ้น
ในส่วนของคดีอาญา อยู่ระหว่างรอให้ผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ซึ่งผบ.ตร. ได้กำชับให้พนักงานสอบสวนดำเนินการด้วยความเป็นธรรม โปร่งใส และไม่มีอิทธิพลใดๆ เข้ามาแทรกแซง พร้อมฝากถึงประชาชนว่า อย่าหลงเชื่อผู้ที่โอ้อวดว่ามีเส้นสายหรือรู้จักผู้มีอำนาจ เพราะไม่สามารถช่วยเหลือพ้นผิดได้ในกระบวนการยุติธรรม
ท้ายที่สุด ผบ.ตร. กล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า ตนมีลูกคนเดียว และได้สั่งสอนเสมอว่า “อย่าทำตัวเป็นขยะสังคม” แม้จะเป็นลูกของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็ต้องรับโทษตามกฎหมายหากกระทำผิด พร้อมขอให้กรณีนี้เป็นอุทาหรณ์แก่ผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคนว่า ควรมีสติ มีน้ำใจ และเอื้อเฟื้อซึ่งกันและกัน จึงจะช่วยลดปัญหาความรุนแรงบนท้องถนนได้
“ผมรู้จักแค่นายกเบี้ยว จะมาอ้างเป็นหลานอาต่าย ฟังแล้วไม่รื่นหู... ถ้าคนดีอยากเรียกน้าหรืออา ผมยินดี แต่ถ้าคนไม่มีสำนึกผิด แล้วมาอ้างนับญาติ ฟังแล้วรู้สึกไม่ดี” พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ กล่าวอย่างชัดเจน

เปิดอาการ "ปวดท้อง4แบบ" เสี่ยงมะเร็งลำไส้ ใครเป็นไปหาหมอด่วน

"หมอไวท์" ชี้ ราศีดวงเปลี่ยนครั้งใหญ่ ชะตาจะพลิก หลังราหูย้าย 5 พ.ค. นี้

พลายปู่คำหมื่น ช้างอายุ 90 ปี แห่งปางช้างแม่สา จากไปอย่างสงบ

งานแต่งงานเรา 3 คน พีกจัดรู้สถานะ 1 ในเจ้าสาว แต่โดนผู้จัดยกเลิก
