รู้จัก "ทราย สก๊อต" ทายาทสิงห์ อดีตจนท.อุทยานฯ หลังพ้นตำแหน่ง

"ทราย สก๊อต" ชื่อนี้กลายเป็นที่รู้จักในแวดวงนักอนุรักษ์และคนรักธรรมชาติ และยังเป็นอดีตที่ปรึกษาอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช แถมมีดีกรีเป็นทายาทรุ่นที่ 4 ของตระกูลภิรมย์ภักดี ผู้สืบทอดสายเลือดจากธุรกิจใหญ่ "สิงห์" แต่เลือกเดินเส้นทางที่แตกต่าง ด้วยหัวใจที่มุ่งมั่นในการดูแลสิ่งแดล้อม โดยเฉพาะทางทะเล ทราย สก๊อต กลายเป็นกระแสบนโซเชียล หลังปะทะคารมนักท่องเที่ยวต่างชาติ ปมพฤติกรรมเหยียดผิว ยืนยัน “การดูถูกคนไทยหรือชาวเอเชีย ไม่ใช่เรื่องที่ยอมรับได้”

ทรายเขียนในโพสต์ว่า ตั้งใจเผยแพร่คลิปเพื่อส่งกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ไทย และย้ำว่า “แม้เขาจะมาเที่ยวประเทศเรา แต่ไม่ได้หมายความว่าเขามีสิทธิ์เหยียดคนไทย”

โดยก่อนหน้านี้ ทราย สก๊อต ได้โพสต์ข้อความหลังยุติบทบาทการเป็นเจ้าที่หน้าที่อุทยาน พร้อมข้อความว่า "ผมเลือกที่เสียสละงานที่ผมรักกับตำแหน่ง ของผม เพื่อโอกาสที่จะสะท้อนเรื่องจริงของ ปัญหาทะเลทางภาคใต้ เหนือกว่าตำแหน่ง ผมคือความรักที่ผมมีต่อทะเล ขอบคุณ สำหรับทุกประสบการณ์และผมเป็นกำลังใจ ให้เจ้าหน้าที่เสมอ...ผมเดินต่อครับ "พร้อมแนบภาพแชตไลน์ที่ส่งหา "อธิบดี" พร้อมบอกว่าไม่ได้รู้สึกไม่ดี ถ้าอธิบดีจะถอนตนเองออกจากตำแหน่ง และไม่อยากให้อึดอัด พร้อมขอบคุณประสบการณ์ที่ผ่านมา

 ประวัติ "ทราย สก๊อต" ลูกครึ่งไทย-สก็อตแลนด์ วัย 26 ปี ทายาทรุ่นที่ 4 ของ สิงห์ คอร์เปอเรชั่น เป็นบุตรชายของ จีรานุช ภิรมย์ภักดี กับอดีตสามีชาวสก็อต มีพี่ชายหนึ่งคนชื่อ พาย-สุนิษฐ์ สก็อต และเป็นหลานตาของ จำนงค์ ภิรมย์ภักดี ประธานบริษัทบุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด

ทรายสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านแอนิเมชันจาก California Institute of the Arts ประเทศสหรัฐอเมริกา ก่อนจะได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2567

เขาเริ่มสนใจงานด้านการอนุรักษ์ทะเลตั้งแต่อายุ 20 ปี และก่อตั้งโครงการ “Sea You Strong” ด้วยเงินทุนส่วนตัว เพื่อเชิญชวนชุมชนในภาคใต้ร่วมเก็บขยะจากชายหาดต่าง ๆ

ในปี 2565 ทรายกลายเป็นที่รู้จักในชื่อ “อควาแมนเมืองไทย” หลังว่ายน้ำเดี่ยวข้ามทะเลจากหาดอ่าวนางไปกลับเกาะปอดะ รวมระยะทางเกือบ 30 กิโลเมตร ภายในเวลา 6 ชั่วโมง เพื่อแสดงให้เห็นถึงความรักและความห่วงใยที่มีต่อท้องทะเลไทย

นอกจากนี้ เขายังสร้างหนังสั้นเรื่อง Merman ซึ่งรับบทเป็นมนุษย์เงือก ถ่ายทอดทั้งความงดงามของโลกใต้น้ำและปัญหาขยะใต้ทะเล พร้อมส่งสารรณรงค์ให้คนไทยตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทรายทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงเพื่อปกป้องทะเลไทย ทั้งผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียและการลงพื้นที่จริงในฐานะเจ้าหน้าที่อุทยาน เขามีบทบาทในการให้ความรู้และตักเตือนนักท่องเที่ยวที่ละเมิดกฎระเบียบ เพื่อปกป้องทรัพยากรธรรมชาติอย่างจริงจัง

นอกจากนี้ เขายังเคยออกมาเรียกร้องเรื่องค่าตอบแทนของเจ้าหน้าที่และลูกจ้างชั่วคราวในอุทยานฯ ที่ยังได้รับค่าจ้างต่ำ ไม่มีสวัสดิการหรือประกันชีวิต ทั้งที่ต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากการทำงานกลางธรรมชาติ