กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ กระทรวงอุตสาหกรรม เผยผลการดำเนินงานด้านสินเชื่อประจำปีงบประมาณ 2566 มีผู้ได้รับอนุมัติสินเชื่อ 678 ราย วงเงินอนุมัติกว่า 1,400 ล้านบาท และในปีงบประมาณ 2567 ได้ออกสินเชื่อโครงการสินเชื่อลดโลกร้อน มีผู้ยื่นคำขอรออนุมัติแล้วกว่า 158 ราย วงเงิน 1,900 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะมีวงเงินอนุมัติเพิ่มขึ้น 36% แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมีความสนใจ ในการปรับปรุงการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
นางสาวณิรดา วิสุทธิชาติธาดา ผู้ช่วยปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ กล่าวว่า กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ กระทรวงอุตสาหกรรม เป็นกองทุนที่มีความสำคัญต่อภาคอุตสาหกรรมของประเทศ
มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งเสริม สนับสนุน และให้ความช่วยเหลือด้านเงินทุนและเพิ่มช่องทางการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้กับผู้ประกอบการที่มีศักยภาพ และพัฒนาผู้ประกอบการให้มีศักยภาพและขีดความสามารถสูงขึ้น โดยผลการดำเนินงานนับตั้งแต่ปี พ.ศ.2560 – 2566 ได้อนุมัติสินเชื่อแล้วกว่า 25,260 ล้านบาท จำนวนกว่า 13,650 ราย ก่อให้เกิดการลงทุน การจ้างงาน การพัฒนาธุรกิจ ตลอดจนสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจได้มากกว่า 80,000 ล้านบาท
ในส่วนของการดำเนินงานขับเคลื่อนกองทุนสามารถตอบสนองนโยบายของรัฐบาล ในด้านการสนับสนุนอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศทั้ง S-Curve และ New S-Curve เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันต่อยอดสู่อุตสาหกรรม 4.0 ซึ่งการดำเนินการต้องใช้กลไกประชารัฐผ่านกระบวนการของหน่วยงานร่วมกัน ดำเนินการทั้งภาครัฐและเอกชนในแต่ละพื้นที่ แต่ละจังหวัดในรูปแบบของคณะอนุกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐประจำจังหวัด เพื่อส่งเสริมสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่มีศักยภาพให้สามารถเข้าถึงแหล่งทุนได้เพิ่มขึ้น
โดยที่ผ่านมากองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ ได้ดำเนินโครงการสินเชื่อต่างๆ คือ
ผลการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2566
มีวงเงินสินเชื่อที่ได้รับอนุมัติ รวมทั้งสิ้น 1,401.22 ล้านบาท จำนวน 678 ราย จากโครงการ ดังนี้
ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567
กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ มีกรอบวงเงินสินเชื่อรวม 3,500 ล้านบาท โดยได้ดำเนินโครงการสินเชื่อลดโลกร้อน (Decarbonize Loan) ภายใต้กรอบวงเงินสินเชื่อ 1,500 ล้านบาท เพื่อเป็นเงินทุนสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ต้องการปรับปรุง หรือลงทุนในกิจการสำหรับการปรับเปลี่ยนเครื่องจักร กระบวนการดำเนินงานในการดูแลสิ่งแวดล้อม และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ
ปัจจุบันมีผู้ประกอบการยื่นคำขอสินเชื่อแล้วกว่า 1,900 ล้านบาท จำนวน 158 ราย ซึ่งอาจจะขยายกรอบวงเงินเพิ่มเติมหากมีความต้องการสูงขึ้น โดยใช้กรอบวงเงินที่เหลือจำนวน 2,000 ล้านบาท หรือนำมาเปิดโครงการสินเชื่อใหม่ที่สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลเพื่อสนับสนุนให้ความช่วยเหลือเงินทุน เพิ่มช่องทางการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้กับผู้ประกอบการที่มีศักยภาพในการต่อยอดพัฒนาธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
“กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ กระทรวงอุตสาหกรรม มุ่งมั่นสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ โดยคำนึงถึงศักยภาพและขีดความสามารถของผู้ประกอบการเป็นหลัก เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถพัฒนาธุรกิจได้อย่างยั่งยืนและเติบโตได้อย่างมั่นคงและเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยต่อไป" นางสาวณิรดา กล่าว
ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่สนใจสามารถสมัครสินเชื่อได้ผ่านเว็บไซต์ของกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ www.thaismefund.com หรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ กระทรวงอุตสาหกรรม โทร. 0-2354-3310 และสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดทั่วประเทศ