ปัจจุบันทั่วโลกเริ่มปรับตัวรับมือกับการเข้ามาของเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่คาดว่าในอีก 10 - 20 ปีข้างหน้า จะเข้ามาแทนรถยนต์สันดาป รวมทั้งความท้าทายของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ก็คือการปรับตัวเพื่อเข้าสู่ยุคของ “ยานยนต์เชื่อมต่อและขับเคลื่อนอัตโนมัติ” (Connected and Autonomous Vehicle :CAV) หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่า “ยานยนต์อัตโนมัติ” ที่ตัวยานยนต์จะมีระบบอัตโนมัติในการขับขี่และสามารถสื่อสารกับยานยนต์คันอื่นได้ โดยมีการกำหนดระดับขั้นของการพัฒนาระบบอัตโนมัติของยานยนต์ไว้ 5 ระดับ ตั้งแต่ในระดับที่มีระบบช่วยเหลือการขับขี่บางส่วน เช่น Cruise control (Level 1) ไปจนถึงระบบที่รถยนต์ทำงานอย่างอิสระเต็มรูปแบบโดยไม่จำเป็นต้องมีคนขับ (Level 5) และหนึ่งในการสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้ก้าวทันต่อการปรับตัวสู่ยุคยานยนต์ไร้คนขับ ที่จะมาถึงในอนาคอันใกล้คือ การสร้างหรือต่อยอดองค์ความรู้ และสร้างบุคลากรด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับพัฒนา “ยานยนต์เชื่อมต่อและขับเคลื่อนอัตโนมัติ”
“โครงการสร้างรถบัสไฟฟ้าไร้คนขับต้นแบบด้วยเทคโนโลยี 5G เพื่อรองรับประชาชนและนักท่องเที่ยวในเขตโบราณสถาน” ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้มอบหมายให้ ศูนย์วิจัย Mobility & Vehicle Technology Research Center (MOVE) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) เป็นผู้รับผิดชอบหลักในการพัฒนารถบัสไฟฟ้าขับเคลื่อนอัตโนมัติ 5G ร่วมกับ บริษัท เทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (TKC) โดยมีระยะเวลาดำเนินโครงการ 20 เดือน (พ.ย. 65 - ก.ค. 67)
รศ.ดร.ยศพงษ์ ลออนวล ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายพัฒนาความยั่งยืน และหัวหน้าศูนย์วิจัย Mobility and Vehicle Technology Research Center (MOVE) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ในฐานะ หัวหน้าโครงการฯ กล่าวว่า ในส่วนของการพัฒนารถบัสไฟฟ้าขับเคลื่อนอัตโนมัติ 5G ต้นแบบคันนี้ ประกอบด้วยการวิจัยพัฒนาในหลายส่วน ทั้งการพัฒนาและติดตั้งระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติเข้าไปในรถบัสไฟฟ้าซึ่งถูกผลิตในประเทศไทย.
ระบบควบคุมรถจากข้อมูลที่ตรวจวัดได้จากเซนเซอร์ ได้แก่
การออกแบบระบบ Drive by wire ประกอบด้วย
การออกแบบระบบเซนเซอร์บนรถ
โดยทั้งหมดนี้ คือ ข้อมูล ณ เวลาและตำแหน่งปัจจุบัน ที่จะถูกนำไปประมวลผลร่วมกับแผนที่ความละเอียดสูงที่อยู่ในฐานข้อมูล เพื่อให้ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติทำการตัดสินใจและสั่งการบังคับรถผ่านระบบ Drive by wire ในแต่ละฟังก์ชันต่อไป
การชาร์จรถบัสไฟฟ้าไร้คนขับ
ได้รับการสนับสนุนพื้นที่จากเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยาในการติดตั้งเครื่องอัดประจุไฟฟ้ากระแสตรงขนาดกำลังไฟ 40 kW รวมทั้งเป็นพื้นที่จอดรถระหว่างการทดลองวิ่งให้บริการ
เทคโนโลยี 5G เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ
ดร.ภาณุภัทร์ ภู่เจริญ ผู้อำนวยการฝ่ายโทรคมนาคม จาก บริษัท เทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) รองหัวโครงการฯ ให้ข้อมูลว่า ได้นำระบบ 5G มาผสานกับเทคโนโลยียานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ เป็น “ต้นแบบ” ของเทคโนโลยี C-V2X (Cellular Vehicle-to-Everything) ซึ่งเป็นระบบสื่อสารที่นำโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่มาเป็นพื้นฐานให้รถคันนี้สื่อสารกับสิ่งที่ต้องการเชื่อมต่อได้ ดังนั้น การสื่อสารผ่านเครือข่าย 5G กับแอปพลิเคชันที่พัฒนาขึ้นทำให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว สามารถเรียกรถและจองที่นั่ง รวมทั้งดูตำแหน่งปัจจุบัน และเวลาที่รถจะมาถึงได้
โดยระบบที่พัฒนาขึ้นมานี้สามารถต่อยอดไปสู่การเชื่อมต่อยานยนต์กับการใช้งานด้านอื่นอีกมากมายในอนาคต ได้แก่ การเชื่อมต่อข้อมูลกับผู้โดยสารหรือผู้ให้บริการ การเชื่อมต่อกับคนเดินเท้าหรือยานยนต์คันอื่น รวมถึงป้ายสัญญาณไฟจราจร ตลอดจนการรายงานอุบัติเหตุบนเส้นทาง ที่ทำให้การเดินทางสะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้น
ประโยชน์ที่ได้รับจากการพัฒนา “ยานยนต์ไฟฟ้าขับเคลื่อนอัตโนมัติ”
ทดลองวิ่งให้บริการรถบัสไฟฟ้าขับเคลื่อนอัตโนมัติ ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา
31 มกราคม 2567 - 1 กรกฎาคม 2567 จะมีการทดลองวิ่งให้บริการรถบัสไฟฟ้าขับเคลื่อนอัตโนมัติ ให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว ในเส้นทางรอบบึงพระราม อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา วันศุกร์ - วันอังคาร เวลา 09.00 – 17.00 น.
เรียกรับบริการ ผ่านแอปพลิเคชัน “5G Auto Bus” ได้ ณ ป้ายจอดรถบัสไฟฟ้าไร้คนขับ 4 แห่ง รอบบึงพระราม ได้แก่
สนใจข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ ศูนย์วิจัย Mobility and Vehicle Technology Research Center มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี โทรศัพท์ 02-470-9637 หรือ 092-465-8936 อีเมล์ [email protected] https://move.kmutt.ac.th