ย้อนรอยคดีดัง คนหายพร้อมรถรับจ้าง สู่คดีฆาตกรรมต่อเนื่องวางยาชิงรถกระบะ

27 เมษายน 2566

จากกรณีคดีสะเทือนขวัญ "แอม ไซยาไนด์" สาววางยาพิษสังหารหลายราย ทางมูลนิธิกระจกเงาพาย้อนรอยคดีดัง 11 ปี คนหายพร้อมรถรับจ้าง สู่คดีฆาตกรรมต่อเนื่องวางยาชิงรถกระบะ

วันที่ 27 เมษายน 2566 เพจเฟซบุ๊กศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา ได้พาย้อนรอยคดีดัง 11 ปีก่อน หลังเกิดคดีสะเทือนขวัญฆาตกรรมต่อเนื่องของ แอม สาววางยาพิษสังหารเท้าแชร์และคนรอบตัวไปนับสิบราย สู่การจับกุมตัวและสืบหาหลักฐานเพิ่มเติม

ทางศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา เผย - ย้อนรอย 11 ปี คนหายพร้อมรถรับจ้าง สู่คดีฆาตกรรมต่อเนื่องชิงรถกระบะ- รายละเอียดดังนี้

 

ย้อนรอยคดีดัง คนหายพร้อมรถรับจ้าง สู่คดีฆาตกรรมต่อเนื่องวางยาชิงรถกระบะ

 

1. เดือนสิงหาคม 2554  มูลนิธิกระจกเงา รับแจ้งคนหาย ลักษณะเป็นผู้ชาย หายตัวไปพร้อมรถกระบะรับจ้าง หลังจากมีผู้มาว่าจ้างงาน

2. ในขณะนั้น ผู้แจ้งเหตุคือ ภรรยา ของคนหาย จึงถูกวิเคราะห์เบื้องต้นว่า เป็นเหตุส่วนตัวหรือไม่ หรือเป็นปัญหาภายในครอบครัวที่สามีไม่อยากติดต่อภรรยา (คดีนี้เป็นบทเรียนทำให้มุมมองต่อการประเมินเหตุ ต้องเปลี่ยนไป) 

3. ต้นปี 2555 ระหว่างทีมงานกระจกเงา ดูรายการสถานีประชาชน ช่อง ThaiPBS มีการประกาศคนหายในรายการ พบว่า คนหายรายนั้น มีลักษณะเดียวกัน คือ คนหาย มีอาชีพขับรถกระบะรับจ้าง แล้วหายตัวไปพร้อมรถ

4. จึงประสานไปที่ทีมงานรายการสถานีประชาชน เพื่อสอบถามรายละเอียด พบว่า ลักษณะการหายไปคล้ายกันมาก คือ คนหายจอดรถกระบะข้างถนน ต่อมามีคนโทรติดต่อว่าจ้างให้ไปขนของที่ จ.ชุมพร แล้วหายตัวไป 

5. ทีมงานกระจกเงาจึงมาค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต และค้นประกาศคนหายตามที่ต่างๆ พบว่า มีคนหายในลักษณะแบบนี้อีก 1 ราย

6. เดือนกุมภาพันธ์ 2555 ได้รับแจ้งคนหาย เป็นรถกระบะรับจ้างหายตัวไปพร้อมรถอีก 1 ราย จึงมีข้อมูลคนหายลักษณะเดียวกันรวม 4 รายแล้ว 

7. จากนั้นทีมงานกระจกเงาและญาติคนหาย ไปออกรายการสถานีประชาชน โดยทางรายการได้เชิญ ผู้บังคับการกองปราบปราม (พลตำรวจตรีสุพิศาล ภักดีนฤนาถ) มาร่วมรายการด้วย (คดีนี้ต้องให้เครดิต รายการสถานีประชาชน ThaiPBS มีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงทุกฝ่ายเข้าหากัน)

8. หลังรายการจบได้หารือกับท่านผู้การกองปราบปราม การหายตัวไปของทุกเคสลักษณะคล้ายกัน มีความสลับซับซ้อน แต่คดีกระจัดกระจาย เพราะ แจ้งคนหายไว้คนละท้องที่ จึงนัดหมายพาครอบครัวไปร้องทุกข์ที่กองปราบ รวมเป็นกลุ่มคดีเดียวกัน 

9. คดีนี้เริ่มปรากฏเป็นข่าวประมาณเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม 2555  ว่ามีคนหายลักษณะเดียวกัน แต่ยังไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น

10. ในขณะที่ก่อนหน้านี้ช่วงปี 2554 ตำรวจภูธรภาค 7 โดยเฉพาะในพื้นที่ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี  พบมีคนถูกวางยา ทิ้งไว้ข้างทาง แต่รอดชีวิตมาได้ ถึง 2 ราย 

11. คดีที่ชะอำไม่เป็นข่าว  แต่ตำรวจท้องที่มีการพาผู้รอดชีวิตมาสอบปากคำ พบว่า ถูกคนร้ายว่าจ้างรถกระบะให้มาขนของที่ปราณบุรี และชุมพร 

12. ระหว่างทาง คนร้ายชวนคนขับคุยเพื่อตีสนิท โดยไม่มีพิรุธ เมื่อถึงพื้นที่ จ.เพชรบุรี ให้คนขับดื่มกาแฟที่เพิ่งซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อในปั๊มน้ำมัน

13. จากนั้น คนขับก็สลบไปและถูกทิ้งไว้ข้างทาง ก่อนคนร้ายเชิดรถไป ผลการตรวจโดยแพทย์ พบว่าเป็นยาฆ่าแมลงถูกผสมในกาแฟ

14. ตำรวจชะอำ สืบสวนติดตามจนรู้ว่า คนร้ายเป็นใคร นำภาพมาให้ผู้รอดชีวิต 2 รายยืนยันก็เป็นบุคคลเดียวกัน 

15. เมื่อมีคดีคนหายที่ไปร้องกองปราบมาร่วมด้วย เพราะลักษณะการก่อเหตุเป็นรูปแบบเดียวกัน ตำรวจจึงร่วมกันสืบสวนและจับกุมคนร้ายได้ที่อ้อมน้อย สมุทรสาคร 

16. ผู้ต้องหารับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุทุกราย  อ้างว่า นำรถกระบะไปขายที่หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยได้เงินคันละ 50,000 บาท

17. เขาบอกว่าต้องการรถกระบะไปขาย แต่ขโมยรถไม่เป็น จึงใช้วิธีการว่าจ้างรถกระบะรับจ้างที่จอดข้างทาง ระหว่างทางแวะซื้อกาแฟ ก่อนผสมยาฆ่าแมลงให้คนขับดื่ม แล้วนำคนขับไปทิ้งไว้ข้างทาง อ้างว่า ไม่คิดว่าจะเสียชีวิต แค่อยากให้สลบ รู้จักยาฆ่าแมลงเพราะเคยทำสวน รู้ว่าไม่มีสีไม่มีกลิ่น 

18. ผู้ต้องหาถูกควบคุมตัวมากองปราบปราม จากนั้นถูกนำตัวไปดำเนินคดียัง สภ.คลองวาฬ ประจวบคีรีขันธ์ เนื่องจากเป็นคดีสุดท้ายที่ก่อเหตุ โดยคนร้ายใช้เสื้อตัวเองผูกคอตายในห้องขัง สภ.คลองวาฬ จนเสียชีวิต

19. ความตายของผู้ต้องหา ทิ้งปริศนาว่า เขาก่อเหตุตามลำพังจริงหรือไม่ รถกระบะถูกนำไปขายให้ใคร และศพคนหายอีกสองราย ซึ่งขณะนั้นยังหาไม่พบ นำไปทิ้งไว้ที่ไหน 

20. คดีนี้ จากคนหาย 7 ราย พบเป็นศพ  3 ศพ หายสาบสูญ 2 ราย รอดชีวิต 2 ราย

 

ย้อนรอยคดีดัง คนหายพร้อมรถรับจ้าง สู่คดีฆาตกรรมต่อเนื่องวางยาชิงรถกระบะ

 

ขอบคุณ ศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา