2 พ.ค.66 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรียกประชุมพนักงานทุกส่วน ของกองบังคับการปราบปราม และกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เรื่องความคืบหน้าคดี แอม ไซยาไนด์ พร้อมยืนยัน ณ เวลานี้ เหยื่อแอมไซยาไนด์ มี15ราย เสียชีวิต 14 รายและรอดชีวิต 1 ราย
โดย บิ๊กโจ๊ก เปิดเผยว่าในช่วงที่ 3-4 วันที่ผ่านมาคดีมีความคืบหน้าไปอย่างรวดเร็ว การประชุมในวันนี้เป็นการประชุมเพื่อเร่งรัดสำนวนการสอบสวนที่เหลืออยู่ ตอนนี้ตัวเลขผู้เสียชีวิตทั้งหมดอยู่ที่ 14 คน 14 คดี มีผู้รอดชีวิต 1 คน
ซึ่งตอนนี้ขอศาลอนุมัติออกหมายจับไปแล้ว 10 คดี และแจ้งข้อกล่าวหาไปแล้วพร้อมอายัดตัวผู้ต้องหา ซึ่งตอนนี้ผู้ต้องหาอยู่ที่เรือนจำ ส่วนอีก 4 คดีที่เหลือวันนี้จะมาไล่เรียงทั้งหมดเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาให้ครบถ้วนทั้งหมด 14 คดี และตอนนี้ต้องมาดูพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงไปถึงบุคคลใกล้ชิด ซึ่งยังไม่ขอเอ่ยชื่อ และวันนี้พบพยานหลักฐานแล้วว่ามีบุคคลใกล้ชิดเข้าไปเกี่ยวข้องและร่วมกันกระทำความผิด
การประชุมในวันนี้เป็นการตรวจสอบพยานหลักฐานและเรียบเรียงสำนวนทั้ง 10 สำนวน เพื่อเพิ่มความแน่นหนาของพยานหลักฐานต่าง ๆ ให้สำนวนมีความรัดกุมที่จะสามารถให้ศาลพิพากษาลงโทษผู้กระทำความผิดได้
ส่วนอีก 4 คดี ก็จะเร่งรัดดำเนินการเพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับให้ครบถ้วน ในส่วนทั้ง 10 คดี พยานหลักฐานจะแตกต่างกันบางส่วน แต่หลักการสำคัญคือความเชื่อมโยงในการกระทำความผิดของ แอม สรารัตน์ ซึ่งยืนยันว่าเป็นคนลงมือและก่อเหตุในลักษณะคล้ายกัน คือนำไซยาไนด์มาให้เหยื่อกิน ถึงแม้การชันสูตรพลิกศพจะพบสารไซยาไนด์ในร่างผู้เสียชีวิตเพียง 2 ราย แต่แผนประทุษกรรมพบว่าสามารถเชื่อมโยงไปถึงกรณีอื่นได้ ภายใน 1-2 วัน จะรวบรวมหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมได้
ส่วนประเด็นที่หลายคนสงสัยว่าหลัง นายแด้ อดีตสามี สรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ เสียชีวิต มีผู้ขับรถยนต์เก๋งสีขาว ต้องสงสัยว่าเป็นนายตำรวจคนหนึ่ง นั้น ทาง พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ระบุว่าเบื้องต้นพบว่ามีตำรวจ 1นายเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย แต่ยังไม่ขอเปิดเผยข้อมูล คาดว่าจะมีการออกหมายจับเพิ่ม 1 บุคคลที่เอี่ยวกับคดีนี้
นอกจากนี้ ได้สั่งตรวจสอบเกี่ยวกับงานขายประกัน ที่ผู้ต้องหาเคยเป็นตัวแทนของบริษัทประกันชีวิต ซึ่งจะต้องขอตรวจสอบว่ามีผู้เสียหายในเรื่องนี้หรือไม่ และขอประชาสัมพันธ์ว่าหากมีญาติพี่น้องหรือครอบครัวผู้เสียหายหรือเสียชีวิตที่มีความสัมพันธ์กับผู้ต้องหาและสงสัยว่าเสียชีวิตโดยผิดปกติสามารถเดินทางให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้